โครงการทับทิมสยาม  04  จังหวัดสุรินทร์

โครงการทับทิมสยาม  04  จังหวัดสุรินทร์ 

 


พระราชดำริ :

            สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์  อัครราชกุมารี  

ความเป็นมา :

            จังหวัดสุรินทร์มีอาณาเขตบริเวณด้านทิศใต้  ติดต่อกับชายแดนประเทศกัมพูชาตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก  เป็นระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร  พื้นที่ตามแนวชายแดนเป็นเขตพื้นที่ราบเชิงเขาที่มีความอุดมสมบูรณ์  เป็นที่อยู่อาศัยของประชาชนกระจายอยู่ทั่วไป  และเป็นเขตต้นน้ำสาขาของแม่น้ำมูลที่สำคัญหลายสาย  คือ ลำน้ำชีน้อย  ลำห้วยทับทัน  ลำห้วยสำราญ  ซึ่งลุ่มน้ำสาขาเหล่านี้ได้หล่อเลี้ยงพื้นที่เพาะปลูกของราษฎรที่อาศัยอยู่ฝั่งขวาของลำน้ำมูลในเขตจังหวัดสุรินทร์ทั้งหมด  รวมทั้งบางส่วนของจังหวัดศรีสะเกษ  และบุรีรัมย์ด้วย

          กระทั่งในปี พ.ศ.2518  มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองในประเทศกัมพูชา  พื้นที่จังหวัดสุรินทร์ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวค่อนข้างรุนแรง  มีกองกำลังต่างชาติร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยเข้าไปรบกวน ทำร้าย  จับกุม  กวาดต้อน  เผาทำลายทรัพย์สินของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนหลายหมู่บ้าน  เป็นเหตุให้ราษฎรชาวไทยอพยพทิ้งถิ่นหนีภัยไปอยู่กับราษฎรหมู่บ้านอื่นๆ  ทำให้ไม่ที่ทำกิน  มีความอดอยากยากจน  ทุกข์ยากอย่างแสนสาหัส

          ต่อมา  เมื่อต้นปี พ.ศ.2522  จากสถานการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศกัมพูชา  ทำให้มีชาวกัมพูชาอพยพหนีภัยเข้ามายังประเทศไทยเป็นจำนวนมาก  พื้นที่ชายแดนจังหวัดสุรินทร์ ต้องกลายเป็นพื้นที่รองรับผู้อพยพหนีภัยสงครามชาวกัมพูชาซึ่งหลบหนีออกนอกประเทศจำนวนกว่า  100,000  คน  โดยมีศูนย์อพยพ-บี (Site B)  ตั้งอยู่ที่ตำบลเทพรักษา  อำเภอสังขะ  จังหวัดสุรินทร์  จนกระทั่งเมื่อสถานการณ์สู้รบในกัมพูชาสิ้นสุดลง  จึงได้มีการส่งผู้อพยพชาวกัมพูชากลับประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม พ.ศ.2535  แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2535

          หลังจากนั้น  ในเดือนสิงหาคม พ.ศ.2536  ศาสตราจารย์  ดร.สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์  อัครราชกุมารี  องค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์  ได้ทรงนำหน่วยแพทย์ให้การรักษาราษฎรไทยที่บริเวณอดีตศูนย์อพยพ-บี  และทรงตระหนักถึงความทุกข์ยากของราษฎรไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา  ที่ได้รับผลกระทบจากภัยสงคราม  จึงทรงมีพระดำริให้ฟื้นฟูพื้นที่ศูนย์อพยพที่ชาวกัมพูชาถูกส่งตัวกลับแล้ว  โดยให้พัฒนาสภาพแวดล้อมและสภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว  เพื่อเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาที่จะขยายไปสู่พื้นที่ใกล้เคียงในลักษณะยุทธศาสตร์การพัฒนา  สร้างผืนแผ่นดินไทยตามแนวชายแดนให้เกิดความมั่นคงถาวรที่สุด  โดยกำหนดชื่อโครงการว่า “โครงการทับทิมสยาม 04” 

          การดำเนินงานตามโครงการในระยะแรก (พ.ศ.2537 – 2539)  เป็นการสำรวจพื้นที่  วางผังโครงการ  คัดเลือกราษฎร  จัดสร้างสิ่งสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานต่างๆ เช่น บ้านพักอาศัยพร้อมที่ดินทำกิน  ถนน  ไฟฟ้า  น้ำประปา  ตลอดจนการแนะนำและส่งเสริมอาชีพต่างๆ ซึ่งการดำเนินงานเสร็จสิ้นแล้วทั้งหมด

          การดำเนินงานตามโครงการในช่วงที่ 2 (พ.ศ.2539 – 2546)  เน้นเรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรให้พ้นจากความยากจน  มีสภาพทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดี  โดยมีการจัดทำแผนเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต  และยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎร  สำหรับเป็นแนวทางยึดถือปฏิบัติของหน่วยงานต่างๆ  ที่เข้าไปดำเนินการพัฒนาและส่งเสริมราษฎร

หลักการและเหตุผล :

          การฟื้นฟูสภาพป่าไม้ให้อุดมสมบูรณ์ดังเดิม  เป็นงานที่ต้องใช้เวลาอันยาวนาน  ซึ่งอาจใช้เวลาหลายชั่วอายุคน  ดังนั้น  การอนุรักษ์สภาพป่าที่อุดมสมบูรณ์ไว้  จึงเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความอยู่รอดของมนุษย์  จึงเป็นโครงการที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนควบคู่กับการฟื้นฟูสภาพพื้นที่ป่าเสื่อมโทรม ซึ่งเป็นโครงการระยะยาว

          ในปัจจุบันได้มีการบุกรุกเขตป่าสงวนแห่งชาติ  และการแปรสภาพป่าธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์เป็นพื้นที่อยู่อาศัยของราษฎร   อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเพิ่มจำนวนประชากรอย่างรวดเร็ว  สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ต่ำซึ่งเป็นสาเหตุให้ราษฎรทำการย้ายถิ่นฐานเพื่อแสวงหาที่ทำกินตลอดจนขยายพื้นที่เกษตรกรรม เพื่อเพิ่มรายได้ต่อครอบครัว อันเป็นสิ่งสำคัญในการดำรงชีวิต  ปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นปัญหาที่มีส่วนเชื่อมโยงถึงความมั่นคงของประเทศชาติ อันรวมถึงความกินดีอยู่ดีของราษฎรไทย

          ความสำเร็จในการดำเนินการโครงการพัฒนาสภาพแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชนในเขตพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ย่อมนำไปสู่การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ  และทรัพยากรบุคคลอย่างสมบูรณ์แบบครบวงจร  อันจะยังผลให้เกิดความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งส่งผลให้ประเทศชาติมีความเจริญรุ่งเรืองอย่างถาวร

 

 

ที่ตั้งโครงการ :

            หมู่ที่ 10 ของตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์

วัตถุประสงค์โครงการ :

           1.  เพื่อรักษาไว้ซึ่งความมั่นคงของประเทศชาติ  โดยการยกระดับคุณภาพชีวิตของราษฎรที่อยู่ในพื้นที่โครงการ 
ทั้งทางเศรษฐกิจ  สังคม  และจิตวิทยา

          2. เพื่อเป็นแนวป้องกันชายแดน และปกป้องอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย  ที่มีภัยคุกคามขึ้นได้

          3.เพื่อก่อให้เกิดความสามัคคีร่วมแรงร่วมใจกันในการพัฒนาประเทศของราษฎรในพื้นที่ชายแดน

          4.เพื่อเป็นศูนย์กลางในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางด้านการศึกษา  การวิจัยและการพัฒนาหมู่บ้านป้องกันชายแดน (ปชด.) ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา

          5.เพื่ออนุรักษ์แหล่งต้นน้ำลำธาร  ซึ่งอยู่ในรูปของป่าที่ยังมีความอุดมสมบูรณ์

          6.เพื่อฟื้นฟู  และปรับปรุงพื้นที่ป่าสงวนฯ เสื่อมโทรมให้กลับเป็นป่าสมบูรณ์พร้อมกับป้องกันการบุกรุกป่าไม้

 

รูปแบบการดำเนินการของโครงการทับทิมสยาม 04 :

           โครงการทับทิมสยาม  04  จัดตั้งขึ้นโดยการเน้นการทำปศุสัตว์และการเกษตรในรูปของสหกรณ์  มีราษฎรเข้าร่วมโครงการ  จำนวน 100 ครอบครัว  แต่ละครอบครัวจะได้รับที่ดินเป็นที่ตั้งบ้านเรือนจำนวน 2 ไร่ และพื้นที่ทำกินจะเป็นลักษณะแปลงร่วม เพื่อใช้เป็นการปล่อยปศุสัตว์ออกไปหากินเองส่วนหนึ่ง  และเป็นพื้นที่ทำการเกษตรที่ดำเนินการในลักษณะพื้นที่รวมอีกส่วนหนึ่ง

          ด้านหลังที่พักอาศัยทุกๆ 4  ครอบครัว  มีสระน้ำขนาด 20 x 20 x 3 เมตร  สำหรับใช้ร่วมกันเพื่อการอุปโภค การเกษตร  และการประมง  พร้อมจัดที่พักอาศัยและสิ่งอื่นๆ  ให้เช่น  พันธ์ไม้  และบ่อปลา เป็นต้น  เป็นการเปิดโอกาสให้ราษฎรเหล่านั้น  ได้เข้าร่วมโครงการและได้รับการพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยสภาบันฯ ได้ขออนุญาตใช้ประโยชน์ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติจากกรมป่าไม้  30  ปี  และได้ดำเนินการจัดตั้งโครงการ  โดยได้รับความร่วมมือจากจังหวัดสุรินทร์  และกองกำลังสุรนารี  ในการประสานงานและดำเนินงานโครงให้โครงการสำเร็จลุล่วงเป็นไปตามแนวพระดำริและพระประสงค์ขององค์ประธานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์

           สำหรับรูปแบบการดำเนินงาน  จังหวัดสุรินทร์  โดยผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ในฐานะประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ  เป็นผู้รับผิดชอบในระดับจังหวัด  และกองกำลังสุรนารีเป็นหน่วยประสานงานในระดับพื้นที่โครงการ  โดยมีสำนักกิจกรรมพิเศษ  สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์เป็นหน่วยงานที่กำกับดูแล ประสานงานและติดตามความก้าวหน้าของโครงการ

 แนวทางปฏิบัติ การดำเนินงานโครงการทับทิมสยาม 04 ขอจังหวัดสุรินทร์

          ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2545 สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ได้ส่งมอบความรับผิดชอบ และการบริหารโครงการให้จังหวัดสุรินทร์ดูแลต่อไปในรูปของหมู่บ้านตามกฏหมายลักษณะการปกครองท้องถิ่น จึงเป็นการสานต่อเจตนารมณ์เพื่อให้การดำเนินงานของโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสัมฤทธิ์ผลตามวัตถุประสงค์ จังหวัดสุรินทร์มีนโยบายและแนวทางปฏิบัติดังนี้

          5.1 นโยบาย

          ดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตราษฎรในโครงการทับทิมสยาม 04 ให้ดีขึ้น มีรายได้จากการประกอบอาชีพที่มั่นคง แน่นอน เพียงพอแก่การพึ่งพาตนเอง โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่โครงการทับทิมสยาม 04

          5.2 แนวทางปฏิบัติ

            5.2.1 การพัฒนาราษฎร

                   (1) .ปรับแนวความคิดของราษฎรให้เข้าใจและเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้

                   (2) .ชี้แจงให้ราษฎรทราบในนโยบายการให้ความช่วยเหลือว่า มีขอบเขตและระยะเวลาจำกัดแน่นอน ต้องการให้ราษฎรช่วยเหลือตนเอง

                   (3).ราษฎรต้องตัดสินใจร่วมกิจกรรมด้วยตนเอง และดำเนินงานอย่างจริงจัง

          5.2.2 การส่งเสริมอาชีพ

                   (1) .ต้องเป็นอาชีพที่ทำรายได้เพิ่มขึ้น หรือลดรายจ่าย อย่างจัดเจน

                   (2)  ราษฎรทราบต้องการดำเนินกิจกรรมนั้น

                   (3) .เน้นการรวมตัวราษฎรในจำนวนที่เหมาะสมกับกิจกรรมเพื่อลดต้นทุนการผลิตและมีผลผลิตเพียงพอการจำหน่ายหรือแปรรูปผลผลิต

                   (4). เน้นความต่อเนื่องในการประกอบอาชีพของราษฎร แม้ว่าจะไม่ได้รับการช่วยเหลือจากทางราชการแล้วก็ตาม

          5.2.3 การรวบรวมข้อมูลรายได้เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง

                   (1)  เน้นเป็นรายบุคคล/ครอบครัว

                   (2)  เน้นกิจกรรมอาชีพแต่ละอาชีพ

                   (3)   สามารถแสดงและอธิบายรายได้ของราษฎรแต่ละรายได้อย่างชัดเจน

                   (4)  ราษฎรรับรู้ข้อมูลและเข้าใจ ตลอดจนอธิบายการผลิตและการจำหน่ายผลผลิตได้อย่างถูกต้อง  
 

งบประมาณ :   

           เป็นงบประมาณจากสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ โดยแยกเป็น

          1. โครงการพัฒนาปัจจัยการผลิตเพื่อการเกษตร                 จำนวน 80,000 บาท

          2. โครงการปลูกและแปรรูปสมุนไพร                                  จำนวน 50,000 บาท

          รวมเป็นงบประมาณที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ ได้จัดสรรงบประมาณรวมทั้งสิ้น 130,000 บาท

 

ผลการดำเนินงาน :

          1. ระหว่างปี 2536-2539 โครงการทับทิมสยาม 04  เริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในปีงบประมาณ 2537 โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานคณะกรรมการ ได้กำหนดให้การดำเนินงานโครงการทับทิมสยาม04 เป็นนโยบายสำคัญของจังหวัดที่จะดำเนินงานใน 3 แผนงานหลักดังนี้ 

          1.1  แผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิต

            การดำเนินงานตามแผนงานพัฒนาคุณภาพชีวิตนั้น จังหวัดสุรินทร์ และหน่วยงานราชการได้ร่วมกันดำเนินการโดยใช้งบประมาณจากสถาบันฯ และงบปกติของหน่วยงานต่างๆ  ซึ่งมีกิจกรรมที่สำคัญ ดังนี้

          - การจัดที่ดิน ได้มีการดำเนินการรังวัดแบ่งแปลงที่อยู่อาศัยแปลงละ 2 ไร่ การปรับพื้นที่การเกษตร เพื่อใช้ในการเกษตรกรรม

          - การก่อสร้างบ้านพักอาศัย จำนวน 100 หลัง

          - การก่อสร้างถนนลาดยางภายในโครงการ

          - การก่อสร้างอ่างเก็บน้ำกะเลงเวก 1 และอ่างเก็บน้ำกะเลงเวกตอนบนพร้อม ระบบการส่งน้ำเข้าพื้นที่การเกษตรในโครงการ การขุดสระน้ำประจำครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีการขุดบ่อบาดาล เพื่อนำน้ำมาใช้ในการอุปโภคบริโภค

          - การก่อสร้างระบบประปาหมู่บ้าน พร้อมการติดตั้งอุปกรณ์ใช้งานเข้าบ้านพักอาศัยทุกหลัง

          - การขยายเขตการบริการไฟฟ้า เข้าพื้นที่โครงการ การติดตั้งอุปกรณ์สูบน้ำประจำสระน้ำของแต่ละครัวเรือน และติดตั้งมาตรวัดไฟฟ้าประจำบ้านพักทุกหลัง

          - การก่อสร้างสถานีอนามัย ประจำหมู่บ้าน พร้อมทั้งการอบรมหมอหมู่บ้าน  เพื่อให้บริการแก่ราษฎรในหมู่บ้าน

          - การจัดตั้งโรงเรียนมัธยม

          - การสร้างศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก

          - การก่อสร้างศาสนสถานเพื่อใช้เป็นศาลาปฏิบัติธรรมและใช้ในการทำพิธี กรรมทางศาสนา

          - การก่อสร้างอาคารเอนกประสงค์

        1.2 แผนงานพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

          - กองทุนยุวเกษตร จัดตั้งกองทุนยุวเกษตร โดยอนุมัติจ่ายเงินกองทุนให้เกษตรกร  ได้กู้ยืม

          - การสหกรณ์ มีการจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรหมู่บ้านทับทิมสยาม 04 จำกัด และจัดตั้งคณะกรรมการบริหาร พร้อมทั้งจัดอบรมกรรมการ สร้างลานตากผลผลิตทางการเกษตร

          - การปศุสัตว์ ส่งเสริมการเลี้ยงเป็ดและไก่ โดยการก่อสร้างเล้าและแจกพันธุ์สัตว์อาหารสัตว์ และวัคซีนในระยะแรก นอกจากนี้ยังมีการส่งเสริมการเลี้ยงกระบือ  เพื่อใช้เป็นแรงงาน

          - การประมง สนับสนุนพันธุ์ปลา  เพื่อปล่อยลงสระน้ำท้ายบ้านและอ่างเก็บน้ำเพื่อราษฎรได้ใช้เป็นอาหาร

          - การจัดหาอุปกรณ์การเกษตร เพื่อใช้ในการเกษตรของราษฎร

          - การจัดอบรมเกษตรก้าวหน้าแก่ราษฎร

          - ส่งเสริมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม โดยก่อสร้างอาคารเลี้ยงไหมวัยอ่อน  จำนวน 1 หลัง อาคารเลี้ยงไหมสาธิต จำนวน 30 หลัง

          - ส่งเสริมการปลูกพืชผักสวนครัว

          - ส่งเสริมการพัฒนาที่ดิน

 

        1.3  แผนงานอื่นๆ

          - การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง โดยดำเนินการสร้างหอกระจาย  ข่าว และป้อมยามทางเข้าหมู่บ้าน

          - การสงเคราะห์ราษฎรที่ยากจน

          - การจัดกิจกรรมเสริม เช่น การจัดทำสวนสมุนไพร การสำรวจข้อมูลต่างๆของหมู่บ้าน การดำเนินงานตามโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน การก่อสร้างซุ้มประตูทางเข้าหมู่บ้าน

       2.  ระหว่างปี 2540-2546 มีการดำเนินการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎร   แบ่งออกเป็น 3 แผนงานหลัก 39  กิจกรรม/งาน โดยใช้งบปกติของหน่วยงาน งบฝากสถาบันฯ หรืองบอื่นๆ มาดำเนินงานโดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับความเป็นอยู่ของราษฎรในโครงการทับทิมสยาม มีแผนงานหลักสามารถแบ่งได้ดังนี้       

2.1 แผนงานด้านเศรษฐกิจ แบ่งออกเป็นกิจกรรม/งาน ได้ดังนี้

          1) โครงการเพาะเลี้ยงเห็ดในโรงเรียน

          2) โครงการส่งเสริมการปลูกข้าวไร่

          3) โครงการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม

          4) โครงการปลูกไม้ดอกและไม้ประดับ

          5) โครงการปลูกผักปลอดสารพิษ

          6) โครงการส่งเสริมการปลูกพืชไร่

          7) โครงการส่งเสริมการปลูกไม้ผล

          8) โครงการส่งเสริมสหกรณ์

          9) โครงการพัฒนาที่ดิน/ปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้ดิน

          10) โครงการส่งเสริมการเลี้ยงไก่เนื้อลูกผสมพื้นเมือง (สามสายพันธ์)

          11) โครงการยกระดับความรู้ด้านการตลาด

          12) โครงการเลี้ยงปลา

          13) โครงการส่งเสริมการตลาดและผลผลิต

          14) โครงการอบรมอาชีพระยะสั้น ได้แก่ ช่างยนต์,ช่างเชื่อมโลหะแผ่น,ช่างไฟฟ้า

          15) โครงการทอผ้าไหม

          16) โครงการปรับระบบการผลิตทางการเกษตร เพื่อกระจายการผลิตและลดความเสี่ยงในการ ผลิตสินค้า       การเกษตร

          17) โครงการวิจัยและพัฒนาข้าวอินทรีย์

 

          2.2 แผนงานด้านสังคม แบ่งออกเป็นกิจกรรม/งาน ได้ดังนี้

          1) งานพัฒนาโครงสร้างระบบสาธารณสุขมูลฐาน

          2) โครงการสุขศึกษาเพื่อพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพที่เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญ

          3) โครงการพัฒนาสุขภาพมารดาและเด็ก

          4) โครงการส่งเสริมสุขภาพกลุ่มวัยทำงาน

          5) โครงการส่งเสริมสุขภาพผู้สูงอายุ

          6) โครงการป้องกันและควบคุมโรค

          7) โครงการลดอันตรายจากสารเคมีกำจัดศัตรูพืช

          8) โครงการปรับปรุงสุขาภิบาลอาหารและควบคุมคุณภาพสิ่งแวดล้อม

          9) โครงการปฏิบัติธรรมเพื่อคุณภาพชีวิต

          10) โครงการส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น

          11) โครงการธรรมะสัญจร

          12) แผนงานจัดการศึกษานอกโรงเรียน

          13) โครงการส่งเสริมการพักผ่อนหย่อนใจของราษฎร

          14) โครงการส่งเสริมการเล่นและแข่งขันกีฬา

          15) โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์และเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมของท้องถิ่น

          16) โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิต (สตรีและเยาวชน)

         2.3 แผนงานด้านสิ่งแวดล้อม แบ่งออกเป็นกิจกรรม/งาน ได้ดังนี้

          1) โครงการป่าไม้เพื่อชุมชน

          2) โครงการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างประหยัด

          3) โครงการปลูกต้นไม้เพื่อเป็นแนวกันลม

          4) โครงการปลูกป่าใช้สอย

          5) โครงการอบรมให้ความรู้ราษฎรและเยาวชนเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติซึ่งการดำเนินงานของหน่วยงานต่างๆ มักไม่เป็นไปตามแผน เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณเท่าที่ควร ทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างไม่เต็มที่

        3. การพัฒนาอาชีพของราษฎร

           อาชีพหลักของราษฎร

           1) อาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม มีสมาชิก 32 ราย มีโรงเลี้ยงวัยอ่อน 1 โรง พื้นที่ปลูกหม่อน 3 ไร่ ห้องเลี้ยงไหมสาธิต 30 โรง

           2) อาชีพการปลูกไม้ผล มีสมาชิก 9 ราย พื้นที่ 45 ไร่

           3) อาชีพการปลูกพืชไร่ มีสมาชิก 18 ราย มีการปลูกถั่วลิสง,การปลูกพริก,การปลูกมะละกอ และมีการปลูกพืชหมุนเวียนตามฤดูกาล

          4) อาชีพการเลี้ยงสัตว์ มีกลุ่มเลี้ยงโค กระบือ และได้รับการส่งเสริมจากปศุสัตว์ จังหวัดสุรินทร์

หน่วยงานรับผิดชอบ :

          - สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์

          - กรมวิชาการเกษตร

 

               ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรสุรินทร์ สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขต                   

               ที่ 4 อุบลราชธานี โดยไม่มีหน่วยงานอื่นใดมาร่วมรับผิดชอบ

 

ที่มาของข้อมูล :

http://www.surinpoc.com

http://edoc.thaieasydns.com

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม