โครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย

โครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย

 

 

พระราชดำริ :  สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

 

 

ความเป็นมา :

 

          ระหว่างพุทธศักราช ๒๕๓๓ - ๒๕๓๔ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรวัดไชยวัฒนารามและโบราณสถานในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทรงสนพระราชหฤทัย
พระนิพนธ์บทเห่เรือชมปลาของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศมาก ในระหว่างที่ทรงเยี่ยมราษฎรและทรงปล่อยปลา
ในแหล่งน้ำต่างๆ ทรงสดับรายงานจากกรมประมงเกี่ยวกับโครงการพัฒนาอาชีพของกรมประมงหลายโครงการ ซึ่งใช้พันธุ์ปลาต่างประเทศเป็นหลัก เช่น ปลาจีนจากประเทศจีน ปลายี่สกเทศ ปลาหมอเทศ ปลากะโห้เทศ ปลานวลจันทร์เทศ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นปลาจากประเทศอินเดีย ทรงสงสัยและมีพระราชปรารภเป็นคำถามว่า“...ปลาไทยหายไหนหมด...”  จึงมีพระราชดำริ “ให้กรมประมงฟื้นฟูปลาไทยกลับมามีจำนวนมากขึ้นและอนุรักษ์ปลาหายากไว้ กรมประมงรับสนองพระราชดำริถือเป็นโครงการหลัก และยึดถือว่า ถ้าปล่อยลงในแหล่งน้ำธรรมชาติ ต้องเป็นปลาไทยเท่านั้น ถ้าเป็นปลาต่างประเทศต้องมีการเจริญเติบโตเร็ว เลี้ยงง่าย ออกลูกหลานได้เอง ซึ่งเหมาะสำหรับคนยากจนในการนำมารับประทานและ
ขาย ให้ปล่อยในแหล่งน้ำ เช่น บึง บ่อน้ำที่สร้างขึ้นมา รวมถึงแม่น้ำลำคลอง”

           กรมประมงได้รับสนองพระราชดำริจัดโครงการฟื้นฟูปลาไทยเป็นโครงการต่อเนื่อง ดำเนินการสำเร็จในการเพาะเลี้ยงปลาไทยได้เกือบทุกชนิด โดยเฉพาะปลาไทยตามกาพย์เห่เรือชมปลาของ
เจ้าฟ้าธรรมาธิเบศ ทั้ง ๑๗ ชนิด ได้แก่ ปลานวลจันทร์ ปลาคางเบือน ปลาตะเพียนทอง ปลากระแห ปลาแก้มช้ำ ปลาทุก ปลาน้ำเงิน ปลากราย ปลาหางไก่ ปลาสร้อย ปลาเนื้ออ่อน ปลาเสือ ปลาแมลงภู่ ปลาหวีเกศ ปลาชะเวง ปลาชะวาด และปลาแปบ ยกเว้นปลาหวีเกศซึ่งสูญพันธุ์ไปแล้ว เนื่องจากมีแห่งเดียวในโลก คือ ในลุ่มน้ำเจ้าพระยาลุ่มน้ำที่สำคัญของประเทศไทยในอดีตเคยเป็นแหล่งที่มีพันธุ์สัตว์น้ำต่างๆ เช่น ปลายี่สก ปลากา ปลาบ้า ปลาสวาย ผลจากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมลง ไม่เอื้ออำนวยต่อการแพร่ขยายพันธุ์ของปลา และสัตว์น้ำจืดตามธรรมชาติ ประกอบกับการทำการประมงเกินกำลังผลิตของแหล่งน้ำ ตลอดจนภัยธรรมชาติ ส่งผลกระทบเสียหายอย่างรุนแรงต่อชนิด และปริมาณสัตว์น้ำจืดในแหล่งน้ำธรรมชาติ กล่าวคือ พันธุ์ปลาน้ำจืดของไทยบางชนิดได้สูญพันธุ์ไป นอกจากนี้พันธุ์ปลาน้ำจืดของไทยอีกหลายชนิดมีปริมาณลดลง จนกระทั่งอยู่ในสภาวะน่าวิตกต่อการสูญพันธุ์ โครงการฟื้นฟูทรัพยากรพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย เป็นโครงการพระราชดำริโครงการหนึ่ง ซึ่งมุ่งเน้นการศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงปลา และสัตว์น้ำจืดของไทยที่หายาก หรือมีโอกาสสูญพันธุ์ แล้วนำไปปล่อยในแหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อทดแทนปริมาณสัตว์น้ำที่ถูกทำลาย 
ซึ่งการเพิ่มผลผลิตของปลาในแหล่งน้ำยังเป็นการเพิ่มรายได้ และเพิ่มปริมาณอาหารโปรตีนแก่ราษฎร
ผู้ยากไร้ในชนบท นอกจากนี้ยังส่งเสริมให้เกิดการเพาะเลี้ยงในเชิงการค้า ซึ่งจะสามารถเพิ่มผลผลิตปลาไทยจากการเลี้ยง และสามารถเพิ่มรายได้ตลอดจนสามารถคืนความหลากหลายของชนิดปลา ซึ่งจะรักษาสภาพความสมดุลตามธรรมชาติของแหล่งน้ำ อันจะนำมาซึ่งการใช้ทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนตลอดไป

 

 

 

วัตถุประสงค์โครงการ :

 

          ๑. เพื่อเพาะพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย

          ๒. เพื่อศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงปลาและสัตว์น้ำจืดของไทยที่หายากใกล้สูญพันธุ์

          ๓. เพื่อเพิ่มผลผลิตพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทยในแหล่งน้ำธรรมชาติ

          ๔. เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรเลี้ยงเป็นอาชีพสำหรับพันธุ์ปลาที่มีศักยภาพในการผลิตและเป็นที่ต้องการของตลาด

 

 

เป้าหมาย:

 

          ๑. ผลิตพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำจืดของไทย จำนวน ๔๕,๐๕๕,๐๐๐ ตัว

          ๒. ปล่อยและแจกพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำในแหล่งน้ำ จำนวน ๔๕,๐๕๕,๐๐๐ ตัว

          ๓. รวบรวมพ่อแม่พันธุ์เพื่อแจกให้แก่เกษตรกร

 

 

พื้นที่ดำเนินงาน :

 

          ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ และสถาบันการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด
ทั่วประเทศ

 

 

 

วิธีการดำเนินการ : 

          ๑. ผลิตเพาะพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำของไทยชนิดต่างๆ จำนวน ๔๕,๐๕๕,๐๐๐ ตัว

          ๒. ปล่อยพันธุ์ปลาและสัตว์น้ำของไทย เพื่อเพิ่มผลผลิตการประมงในแหล่งน้ำธรรมชาติ เขื่อน อ่างเก็บน้ำต่างๆ ที่เหมาะสม โดยให้เกษตรกรในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมในการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ รู้จักการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำ และการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำของไทยไม่ให้สูญพันธุ์ต่อไป

          ๓. รวบรวมพ่อแม่พันธุ์สัตว์น้ำ หรือตัวอ่อนของสัตว์น้ำไว้เพื่อเพาะขยายพันธุ์ และเลี้ยงไว้เป็นพ่อแม่พันธุ์ต่อไป

          ๔. ส่งเสริมการเลี้ยงสัตว์น้ำแก่เกษตรกรโดยการแนะนำและให้การสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำแก่เกษตรกรที่มีความพร้อมในการเลี้ยงสัตว์น้ำ ติดตามผล และให้คำแนะนำแก้ไขปัญหาจนสามารถจับผลผลิตได้

 

 

ระยะเวลาการดำเนินการ :

 

          ปี   ๒๕๔๖ - ๒๕๕๖

 

 

หน่วยงานรับผิดชอบ :

 

          - ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด (๔๓ จังหวัด)

          - ศูนย์วิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ (๓ จังหวัด)

          - สถาบันวิจัยการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด (๑ จังหวัด)

          - ส่วนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ

          - สำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยีการประมง กรมประมง

 

 

ที่มาของข้อมูล :      

      

http://extension.fisheries.go.th/

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม