โครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดแพร่
โครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคมอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดแพร่
พระราชดำริ :
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
แนวพระราชดำริ :
พระราชดำริ เมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๒๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรโครงการอ่างเก็บน้ำห้วยเปาะตามพระราชดำริ และทรงเยี่ยมราษฎร ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำห้วยเปาะ ในท้องที่บ้านลู ตำบลห้วยหม้าย อำเภอสอง จังหวัดแพร่ และมีพระราชดำริเกี่ยวกับงานชลประทาน ว่าควรพิจารณาวางโครงการและก่อสร้างอ่างเก็บน้ำตามลำน้ำสาขาต่าง ๆ ของแม่น้ำยม เพื่อจัดหาน้ำให้ราษฎรหมู่บ้านต่าง ๆ ในเขตอำเภอสอง และอำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ สามารถมีน้ำทำการเพาะปลูกได้ทั้งในฤดูฝน-ฤดูแล้ง และมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคตลอดปีด้วย ตามที่ราษฎรหมู่บ้าน ต่าง ๆ ได้ทูลเกล้า ฯ ถวายฎีกาขอพระราชทานโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ เพื่อพิจารณาดำเนินการโดยเร่งด่วนตามความเหมาะสมต่อไป ไม่เพียงดื่มและใช้ แต่มีไว้เพิ่มคุณภาพชีวิต แม้ว่าในภาคเหนือของไทยจะมีความอุดมสมบูรณ์ตามธรรมชาติอยู่มาก แต่ปัญหาภัยแล้งกลับเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทุกปี จากคำร้องเรียนของประชาชน จำนวน ๕ หมู่บ้าน ในตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ซึ่งประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และประกอบอาชีพในฤดูแล้ง ติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี จึงได้เรียกร้องให้สภาตำบลสวนเขื่อน เสนอโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำเพิ่มเติม และอ่างเก็บน้ำห้วยแม่แคมก็เป็นอีกหนึ่งโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่พระราชทานเพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับราษฎร เพิ่มประโยชน์ใช้สอย ในช่วงแรกมีการคาดการณ์ไว้ว่าอ่างเก็บน้ำห้วยแม่แคม จะเป็นเพียงงานชลประทานขนาดเล็ก ที่ช่วยแก้ปัญหาภาระแห้งแล้ง และตอบสนองความต้องการน้ำขั้นพื้นฐาน คือ การอุปโภคบริโภค และทำการเกษตรขนาดย่อมให้กับชาวบ้าน แต่หลังจากการศึกษาภูมิประเทศ และสภาพทางอุทกวิทยา (Hydrology) ซึ่งเป็นการศึกษาทรัพยากรน้ำ รวมทั้งการเคลื่อนที่ และการดูแลน้ำอย่างยั่งยืนแล้ว พบว่าสามารถสร้างทำนบกั้นน้ำเพื่อปิด ลำห้วย และเก็บกักน้ำได้ แต่อ่างเก็บน้ำแม่แคมจะมีขนาดและค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงเกินงานชลประทานขนาดเล็ก จึงขยายไปเป็นโครงการขนาดกลางซึ่งเก็บน้ำได้มากกว่า ? สิ่งดี ๆ ที่มาพร้อมสายน้ำ การสร้างอ่างเก็บน้ำแม่แคม นอกจากจะทำให้ชาวบ้านมีน้ำอุปโภคบริโภคตลอดทั้งปีแล้ว ยังสามารถแจกจ่ายสำหรับทำการเกษตรได้ในพื้นที่มากกว่า ๗, ๕๐๐ ไร่ ทั้งยังช่วยป้องกันปัญหาอุทกภัยในเขตตัวเมือง เป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวจังหวัดแพร่อีกด้วย
ที่ตั้งของโครงการ :
ตำบลร่องฟอง ตำบลบ้านถิ่น ตำบลน้ำชำ ตำบลเหมืองหม้อ ตำบลกาญจนาและตำบลป่าแดง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่
วัตถุประสงค์โครงการ :
1.ใช้เป็นแหล่งกักเก็บน้ำไว้ช่วยเหลือการเพาะปลูกให้แก่พื้นที่บางส่วนในเตตำบลร่องฟอง ตำบลบ้านถิ่น ตำบลน้ำชำ ตำบลเหมืองหม้อ ตำบลกาญจนาและตำบลป่าแดง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่
2.เป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภคในช่วงฤดูแล้งของราษฎร และสัตว์เลี้ยงในเขตโครงการ
3.เพื่อยกฐานะความเป็นอยู่ของราษฎรที่อยู่ในเขตพื้นที่โครงการ และบริเวณใกล้เคียงให้ดีขึ้นเป็นแหล่งแพร่และเพาะขยายพันธ์ปลาน้ำจืดให้ราษฎรได้บริโภคและเป็นรายได้เสริม
สภาพทั่วไป
หน่วยงานผู้ดำเนินงาน /หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง :
- กรมชลประทาน
ระยะเวลาก่อสร้าง : แผนการดำเนินการ 4 ปี (2553-2556)
รายละเอียดโครงการ
(1) ทำนบดิน :-
-พื้นที่รับน้ำฝน 59.00 ตร.กม.
-ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปี 1,074.10 มม.
-ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯในเกณฑ์เฉลี่ยต่อปี 14.94 ล้าน ลบ.ม.
-ระดับสันเขื่อน +273.20 ม.(รทก.)
-ระดับน้ำสูงสุด +271.70 ม.(รทก.)
-ระดับน้ำเก็บกัก +270.00 ม.(รทก.)
-ระดับน้ำต่ำสุด +248.00 ม.(รทก.)
-ความสูงเขื่อน 34.20 ม.
-ความยาวของสันเขื่อน 280.00 ม.
-ความกว้างของสันเขื่อน 8.00 ม.
-ความจุเขื่อนที่ระดับเก็บกัก 8.55 ล้าน ลบ.ม.
-ความจุเขื่อนที่ระดับต่ำสุด 0.35 ล้าน ลบ.ม.
-น้ำใช้งานระหว่างปี 8.20 ล้าน ลบ.ม.
-ราคาค่าก่อสร้าง 375.00 ล้านบาท
(2) ทางระบายน้ำล้น :-
-ระบายน้ำสูงสุดได้ 197.00 ลบ.ม./วินาที
(3) ท่อส่งน้ำ (Canal Outlet) :-
-ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1.00 ม.
-ปริมาณน้ำไหลผ่านท่อ 5.125 ลบ.ม./วินาที
(4) ระบบส่งน้ำและอาคารประกอบ :-
-ฝายทดน้ำของราษฎร จำนวน 15 แห่ง
ผันน้ำเข้าสู่ระบบเหมืองเดิมต่อไป
-พื้นที่ชลประทาน 7,500 ไร่
-พื้นที่ส่งน้ำฤดูแล้ง 1,000 ไร่
ความก้าวหน้าโครงการ
ด้านออกแบบ
- กรมดำเนินการออกแบบเอง ผลงานแล้วเสร็จ 100%
ด้านที่ดิน
- ดำเนินการปักหลักเขตแล้วเสร็จ
- ดำเนินการรังวัดแบ่งแยกแปลงกรรมสิทธิ์ที่ดินแล้วเสร็จ
- อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อจ่ายค่าทดแทนต่อไป
ด้านป่าไม้
- ดำเนินการขอใช้พื้นที่ป่าไม้แล้ว ตามหนังสือเลขที่ กษ 0303/38 ลงวันที่ 27 มิถุนายน 2546
- ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ แจ้งผลการตรวจสอบสภาพป่า เสนออธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ตามหนังสือที่ พร.0013/14468 ลงวันที่ 20 ตุลาคม 2546 กรมป่าไม้ส่งหนังสือถึงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ ขอให้จำแนกป่าโซน E และ โซน C แต่ละประเภทเนื้อที่เท่าใด สำหรับโซน C ขอให้รายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้วย ตามหนังสือกรมป่าไม้ ที่ ทส.1602.4/109 ลงวันที่ 8 มกราคม 2550
- โครงการก่อสร้าง 2 ส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม เสนอทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2550 เนื่องจากพื้นที่อยู่ในเขตป่าเพื่ออนุรักษ์ (โซน C) เนื้อที่ 50-2-00 ไร่ ตามหนังสือที่ กษ 0313.14/222 ลงวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2550
- ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดแพร่ส่งรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมถึงกรมป่าไม้ ตามหนังสือที่ พร.0013.4/3402 ลงวันที่ 1 มีนาคม 2550 ซึ่งกองการอนุญาตเสนอให้ส่วนวิจัยและพัฒนาตามหนังสือที่ พร.76401/172 ลงวันที่ 14 พฤษภาคม 2550
- สำนักชลประทานที่ 4 ส่งคำขอใช้พื้นที่ป่าไม้ เพื่อก่อสร้างถนนทดแทน และที่ทำการบ้านพัก พร้อมหนังสือขอความเห็นชอบกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กรณีพื้นที่มีมากกว่า 20 ไร่ ตามหนังสือที่ กษ 0313/412 ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2550 และที่ กษ 0313/670 ลงวันที่ 4 กันยายน 2550
ผลการดำเนินงานและกิจกรรมโครงการ :
- สามารถส่งน้ำให้แก่พื้นที่เพาะปลูกทั้งสิ้น 7,500 ไร่
- เพื่ออุปโภคและบริโภค
- สามารถช่วยป้องกันและบรรเทาอุทกภัยในเขตตัวเมืองแพร่ได้
- ใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของราษฎรที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงได้
- สามารถใช้อ่างฯ เป็นแหล่งแพร่และขยายพันธ์ปลาและสัตว์น้ำจืดอื่น ๆ ได้
ผลการดำเนินงานในปัจจุบัน
- อยู่ระหว่างดำเนินการรังวัดปักหลักเขต (ถนนทดแทนฯ ,หัวงาน)
- อยู่ระหว่างการตรวจสอบทรัพย์สินเพื่อจ่ายค่าทดแทน (บริเวณอ่างฯ)
- อยู่ระหว่างการพิจารณาการขอใช้พื้นที่ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บริเวณอ่างฯ ,ที่ทำการ ,ถนนทดแทนฯ)
- ดำเนินการจัดทำประมาณการและจัดทำเอกสารประมูลจ้างแล้วเสร็จ
ปัญหาและอุปสรรค
- ยังไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ป่า
ผู้ได้รับประโยชน์ :
เป็นแหล่งน้ำสำหรับการอุปโภค-บริโภคในช่วงฤดูแล้งของราษฎร และสัตว์เลี้ยงในเขตโครงการ
ที่มาของข้อมูล :
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น