... ภาพบรรยายลักษณะมาตรฐานพันธุ์ FILA BRASILEIRO ซึ่งบรรยายโดยผู้เชี่ยวชาญสุนัขพันธุ์นี้โดยเฉพาะ
Dr. ALBERTO BARROSO PERCIRA ลักษณะมาตรฐานใหม่ๆ ของสายพันธุ์สุนัขฟิล่า บราซิลเลียโร ได้รับการกำหนดขึ้นและเสนอโดย CBKC ได้แก่ FCI แล้ว โดยองค์กรนี้ถือได้ว่าเป็นบิดาขององค์การนักผสมพันธุ์สุนัขของโลก WORLD ORGANIZATION OF DOG BREEDERS
องค์การ CBKC นี้เป็นสมาคมผู้อุปถัมภ์แห่งเดียวของสุนัขพันธุ์ ฟิล่า บราซิลเลียโร แห่งประเทศบราซิล อันเป็นสมาชิกของ
องค์การ FCI ส่วนอีก 98% ที่เหลืออยู่ของนักผสมพันธุ์ ฟิล่า บราซิลเลียโร และเจ้าของสุนัขพันธุ์นี้ ล้วนสังกัดรวมอยู่ในองค์การ
CBKC ทั้งสิ้น ลักษณะสายพันธุ์มาตรฐานของสุนัขพันธุ์ ฟิล่า บราซิลเลียโร่ลักษณะทั่วไป ลักษณะอันเป็นหลักสำคัญของสายพันธุ์ โมโลสเซอร์ (MOLOSSER) ได้แก่ กระดูกแข็งแรง ลำตัวกว้างแกร่งเกือบจะดู
ุเหมือนหีบรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดกระทัดรัด แต่ก็สมน้ำสมเนื้อ และมีสัดส่วนที่ดีถึงแม้ว่าสุนัขพันธุ์นี้จะมีตัวใหญ่แต่ก็มี
คุณสมบัติที่คล่องแคล่วว่องไวมากอย่างเห็นได้ชัด และสำหรับสุนัขเพศเมียนั้นจะต้องแสดงให้เห็นลักษณะนิสัยแห่งความ
เป็นแม่อย่างเด่นชัด ทำให้มองดูก็ทราบว่าต่างกันกับสุนัขเพศผู้ ลักษณะพันธุ์และอารมณ์ สุนัขพันธุ์นี้มีลักษณะนิสัยกล้าหาญ มีใจเด็ดเดี่ยวและมีความห้าวอย่างยิ่งและมีความกตัญญูและว่าง่าย สำหรับนายของมัน
และครอบครัวของเขา และอ่อนโยนสุภาพกับเด็กๆ อย่างที่สุด ความซื่อสัตย์ของมันนับว่าขึ้นชื่ออยู่ในประเทศบราซิล และ
เฝ้ารักษาเจ้าของของเขาอย่างใกล้ชิด และลักษณะที่ขึ้นชื่ออีกอย่างคือ จะมีความก้าวร้าวกับบุลคลแปลกหน้าเป็นอย่างมาก
เป็นสุนัขที่ที่ปกติแล้วมีบุคลิคที่สงบนิ่ง และมีความเชื่อมั่นในตนเองมาก แม้แต่จะมีเสียงประหลาดๆหรือเสียงดังโครมคราม
ใกล้ตัว มันก็ไม่ตื่นตกใจ มันเป็นสุนัขเฝ้ายามที่ไม่เป็นรองใครเลย และใช้เป็นสุนัขที่ล่าสัตว์ใหญ่ได้ดีโดยสัญชาติญานของ
มันเองและใช้เป็นสุนัขที่ใช้เลี้ยงฝูงวัวก็เยี่ยม แต่เมื่อขึ้นเวทีประกวดสุนัขมันมักไม่ยอมให้กรรมการแตะเนื้อต้องตัวมันเอาเสียเลย
และหากในกรณีของการเข้ากัดผู้ใด ก็จะถือว่าเป็นความผิดของสุนัขฟิล่าไม่ได้ แต่ทว่า เป็นอารมณ์ดุของสุนัขฟิล่าโดยธรรมชาติฺ
ภาพนบสุด...รูปร่างลักษณะ"ฟิล่า"ที่จัดว่าสวย
ภาพกลาง...เส้นหลั งภาพบนลักษณะดีบั้นท้ายสูงกว่าส่วนหลั ง
ภาพล่างลักษณะใช้ไม่ได้ ลำตัวสั้นเกินไปความยาวของ ส่วนหลังถึงบั้นท้ายเท่ากับความลึกของอก การเคลื่อนที่ ควรจะเป็นในลักษณะที่ยือหยุ่น และโจนไกลๆ ความอ่อนช้อยในการเคลื่อนไหวของมันทำให้ดูคล้ายๆเสือย่อง และมันมี
ีความสามารถพิเศษอยู่อย่างหนึ่งก็คือการคืบ (AMBLING) หมายถึงการก้าวด้วยขาหน้าและขาหลังข้างเดียวกันพร้อมๆกันไป
ทั้งไปข้างหน้าและถอยหลัง ลักษณะการเคลื่อนไหวเช่นนี้ ทำให้ดูลำตัวของสุนัขกระเพื่อมไปตามจังหวะการเคลื่อนที่ และส่วนหลังของมัน
จะยกขึ้นมาเท่ากับระดับของหางที่ชี้เหยียดตรง และในการเคลื่อนที่สุนัขจะเก็บหัวของมันก้มลงต่ำกว่าลำตัวเสมอไป เมื่อก้าวเหยาะๆ
สุนัขจะเคลื่อนที่ได้อย่างนุ่มนวล และสะดวกสบายและมีก้าวอย่างมั่นคงดีมาก
เมื่อวิ่งควบก็มีความแข็งแกร่งและวิ่งได้อย่างเรวซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อสำหรับสุนัขใหญ่และหนักมากอย่างนี้และตามคุณลักษณะอีกอย่างหนึ่ง
ของสุนัขในสายพันธุ์ที่สืบเนื่องมาจากพันธุ์โมลอสเซอร์นั้น ก็ควรจะได้แก่การหักเหทิศทางในเวลาวิ่งได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในความจริงสุนัขฟิล่า
ก็มีคุณลักษณะนี้ด้วย การแสดงออก ในสภาวะการณ์ปกติสุนัขจะอยู่ในสภาพสงบนิ่ง สง่างาม และมีความมั่นใจในตนเองเป็นอย่างสูง สุนัขไม่เคยแสดงอาการหลับๆตื่นๆ หรือ
สภาพแสดงความเบื่อหน่ายต่อสิ่งแวคล้อม และเมื่อมีใครมาทำให้สุนัขเกิดความสนใจขึ้น อาการแสดงออกของสุนัขคือความมีใจมั่นจะทำอะไร
ก็ทำอย่างเด็ดเดี่ยว และมีท่าทางที่แข็งแรง และสนใจในสื่งที่ตนจะทำอย่างเต็มเปี่ยม ...ลักษณะของ ฟิล่าศรีษะและใบหน้าที่จัดว่าสวย จากภาพ... ลักษณะมาตราฐานของส่วนหัว ของ"ฟิล่า" ที่จัดว่าสวย ...ภาพบน...สังเกตุเส้นจุดปุดูที่โคนหูกับขอบตาจะต้องอยู่ในแนวเดียวกัน...ภาพล่าง...เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นได้ว่าส่วนบนของกระโหลกหัวของสุนัขลาดขึ้นเล็กน้อย
จากทางด้านหน้าผากไปหาด้านหลังหรือด้านท้ายทอย โดยที่ตัวท้ายทอยเองนั้นมีลักษณะแข็งแรงช่วงเนินลาดตั้งแต่หน้าผาก(A)ลงมายัง
จุดรอยต่อดั้งจมูก(B) เป็นแนวลาดโค้งต่อเนื่องกันไปจนถึงจากจมูก... หัวสุนัข สุนัขมีหัวใหญ่ หนักแน่น ขนาดใหญ่กว้างแข็งแรง และได้สัดส่วนกับลำตัว เมื่อมองลงมาจากด้านบนจะเห็นได้ว่าหัวสุนัขมีรุปเป็นสี่เหลี่ยม
สองด้านขนานกัน (TRAPEZIUM) และเมื่อมองจากทางด้านข้างจะเห็นว่าความหนาของปากกับของกระโหลกหัวสุนัขเกือบจะเท่าๆกันทีเดียว แต่ดูเหมือนว่าความหนาทางด้านปลายปากสุนัขจะหนามากกว่าตัวกระโหลกหัวของสุนัขอยู่เล็กน้อยอีกด้วย กระโหลกหัวสุนัข เมื่อมองทางรูปด้านข้าง จะเห็นได้ว่าส่วนบนของกระโหลกหัวของสุนัขลาดขึ้นเล้กน้อยจากทางด้านหน้าผาก ไปหาด้านหลังหรือด้านท้ายทอย
โดยที่ตัวท้ายทอยเองนั้นมีลักษณะแข็งแรง และยื่นล้ำออกมาอีกด้วย โดยเฉพาะเมื่อยังเป็นลูกสุนัขน้อยอยู่นั้นจะเห็นได้เด่นชัด เมื่อมองจากทาง
ด้านหน้าจะเห็นว่ากระโหลกหัวสุนัขด้านบนนั้นใหญ่ กว้าง และด้านบนของกระโหลกหัวสุนัขเป็นเส้นโค้งเล็กน้อยเมื่อลงมาหาด้านคางของปากสุนัข เนินลาดของช่วงหน้าผาก เมื่อมองด้านหน้าเกือบจะมองไม่เห็นระดับการขึ้นลงอย่างไรเลย รอยย่นบนหน้าผากสุนัขนั้นก็มีอยู่เพียงตื้นๆเท่านั้นเอง และเมื่อมองดู
จากทางด้านข้าง ระดับของส่วนหน้าผากสุนัขนี้ก็มีอยู่น้อยมากและเป็นเส้นโค้งทำให้เห็นได้แต่เพียงส่วนที่เป็นคิ้วสุนัขเท่านั้น ส่วนจมูก มีลักษณะแข็งแรง กว้าง และหนาลึก และรับกับระดับของกระโหลก สุนัขได้ดี เมื่อมองจากด้านบนลงมาจะเห็นว่าส่วนที่เป็นโคนของลำจมูก
กว้าง เมื่อมาถึงที่ตั้งของดวงตาก็จะแคบเข้าบ้างเล็กน้อย แต่จะเรียวแคบลงพร้อมกับหนาลึกขึ้นทางด้านปลายจมูก และเมื่อมองจากทางด้านข้างจมูกจะยื่นตรงออกไปเป็นกล่องสี่เหลี่ยมอย่างที่เรียกกันว่าจมูกโรมัน (ROMAN LINE) แต่ก็มิได้มีรอยโค้งขึ้นด้าน
บนแต่อย่างใด ทางด้านปลายตัดของจมูก ก็ตัดเป็นเส้นตรง แล้วตรงส่วนที่เป็นช่องจมูกจึงจะโค้งอยู่บ้าง จากซ้ายไปขวาและจากบนมาล่างถึง
จุดริมฝีปากบน ซึ่งมีความหนามากห้อยตัวลงมาและปกคลุมริมฝีปากล่างเอาไว็ และดังนั้นก็เป็นส่วนที่มองเห็นเป็นภาพตั้งด้านข้างของลำจมูก
สุนัขไปเลยคือหมายถึงว่าเป็นเส้นตรงขนานกับเส้นสันจมูก เมื่อมองจากด้านข้างและเวส้นของริมฝีปากสุนัขจะสามารถมองเห็นได้ชัดเจนอยู่เสมอ และสำหรับริมฝีปากล่างนั้นจะเป็นเส้นเดินตามรอยฟันและกรามของปากด้านบน และจะโค้งลงเล็กน้อยทางด้านปลายสำหรับดั้งจมูกสุนัขทาง
ด้านบนลงมาจะหนามากทีเดียว และความหนาน้อยกว่าความยาว ถ้ามองจากด้านหน้าตรงมา ริมฝีปากสุนัขจะห้อยลงมาเหมือนกับรูปตัวยูคว่ำมากทีเดียว ปลายจมูก แข็งแรงดี ปลายกว้าง แต่ก็ไม่กว้างเท่ากับกระดุกโครงของกรามบน มีสีดำ ตา มีขนาดกลางจนถึงขนาดใหญ่ เรียวยาวเหมือนผลอัลมอนด์ อยู่ห่างกันพอสมควร มีระดับความสูงปานกลาง หรือค่อนข้างต่ำ สีที่ยอมรับได้คือ
สีน้ำตาลเข้ม และอ่อนลงมาจนเป็นสีเหลือง แล้วแต่ว่าสุนัขจะมีสีขนอะไร ใบหู ห้อยตกลงต่ำ ใหญ่ มีรูปเป็นตัว “V” กว้างมากที่โคนใบหูและค่อยเรียวเล็กลงมาทางปลาย มีปลายกลม โคนหูตั้งต้นที่ด้านหลัง ของขอบตา
ในแนวเส้นล่างของกระโหลกหัวสุนัขด้านบน เมื่ออยู่ในท่าปกติแต่เมื่อสุนัขตื่นตัวโคนใบหูจะถอยหลังไปบ้างน้อย เพื่อเปิดช่องหูให้รับเสียงทำ
ให้มองเห็นในช่องหูได้ ฟันสุนัข ความยาวของชุดฟันยาวกว่าความกว้าง แข็งแรง มีฟันขาว เขี้ยวด้านบนมีโคนกว้างมาก แต่ส่วนปลายแหลม ฟันหน้าก็แข็งแรง และขึ้นเป็นซี่ๆ
ห่างกันพอควร รูปของฟันหน้าเป็นรูปกรรไกล (เมื่อหุบปาก ฟันบน ควรอยู่ด้านนอกฟันล้างควรอยู่ในแต่ชิดกัน) คอ แข็งแรงอย่างยิ่ง มีกล้ามเนื้อหนาเป็นปึก ทำให้เหมือนมีคอสั้น เส้นด้านบนมีความโค้งน้อยๆ และมองเห็นได้ว่าเป็นอวัยวะส่วนที่แยกออกจาก
หัวกระโหลกอย่างเห็นชัด สุนัขมีเหนียงใต้คอด้วย ส่วนหลัง จุดกลางสันหลังมีความโค้งเล็กน้อย ส่วนไหล่กว้างออกจากกัน ส่วนกลางสันหลังอยู่ต่ำกว่าระดับส่วนตะโพกต่อกับโคนเล็กน้อย เส้นหลังจากคอมาเปลี่ยนระดับลาดลงมาหลังจากจุดหลังไหล่มาสู่จุดหลังอาน แล้วก็ลาดขึ้นอีกจนถึงหลังสะโพก และระดับของเส้นสันหลังของ
สุนัขนี้ไม่เปลี่ยนแปลงเมื่อสุนัขวิ่งหรือควบ ส่วนสะโพก กว้าง ยาว และจะสูงกว่าส่วนกลางหลังเป็นเส้นลาดประมาณ 30 องศา มีความโค้งเล็กน้อย เมื่อมองจากด้านหลัง ส่วนสะโพกจะกว้างเท่าๆ
กับส่วนช่วงอก และสำหรับสุนัขเพศเมียจะมีส่วนสะโพกนี้กว้างกว่ากันยิ่งขึ้น ส่วนลำตัว แข็งแรง กว้าง และต่ำ มีหนังที่หนาและยืดหยุ่นได้ ส่วนลำคอยาวกว่าส่วนสะโพกหลังเมื่อวัดระยะจากไหล่ไปถึงสะโพก ลำตัวจะมีความยาว
มากกว่าความสูงประมาณ 10% ส่วนลำคอ มีสันคอที่เป็นเส้นโค้งอย่างดี แต่จะไม่กว้างกว่าส่วนความหนาของส่วนหัวไหล่ มีอกย้อยต่ำ และกว้างมากถึงจุดข้อต่อของหัวไหล่ทีเดียวอก
สุนัขแข็งแรงมาก สะโพก สั้นกว่าและไม่ต่ำลงมาเท่ากับส่วนอก ส่วนลำคอและสะโพกนับว่าแยกจากกันอย่างเด็ดขาด สำหรับสุนัขเพศเมียมีส่วนข้างของสะโพกแข็งแรง
กว่า เมื่อมองลงมาจากด้านบน ส่วนสะโพกยังเล็กกว่าส่วนลำคอ และส่วนโคนหาง แต่ก็มีกล้ามเนื้ออิ่มเอิบสมบูรณ์ เส้นด้านใต้ลำตัว เส้นใต้ส่วนอกต้องยาวและเป็นเส้นขนานกับพื้นดิน จะมีเส้นลาดโค้งสูงขึ้นบ้างก็เล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้โค้งขึ้นแบบเดียวกับเส้นใต้ลำตัวของสุนัขแข่ง ส่วนขาหน้า ส่วนไหล่ของสุนัขประกอบด้วยสะบักไหล่ และกระดูกขาหน้าท่อนบนควรจะมีความยาวเท่าๆกัน กระดูกสะบักไหล่นั้นควรจะวางตัวอยู่ในรูป
45 องศา กับเส้นสันหลัง และมุนระหว่างกระดูกสะบักไหล่กับกระดูกขาหน้าท่อนบนนั้นควรจะทำมุมกัน 90 องศา จุดที่กระดูกสะบักไหล่มาจดกับ
กระดูกต้นขาหน้าคือหัวไหล่สุนัขที่เราเห็นได้ ซึ่งควรจะอญู่ในระดับสูงเท่ากัน แต่จะอยู่คล้อยลงมาทางด้านหลังของตัวกระดูกคออยู่บ้าง
และสุนัขที่นับว่ามีส่วนสัดที่ดี ควรจะมีส่วนที่เป็นไหล่รวมราบไปจากส่วนกระดูกสะบักไหล่ไปหาส่วนที่เป็นต้นคอ โดยมีส่วนสูงสุดของส่วน
หัวไหล่นี้อยู่ตรงกึ่งกลางของระยะที่กล่าวนี้พอดิบพอดีทีเดียว และเมื่อเราลากเส้นตรงลงมาจากจุดหัวต่อกับกระดูกสะบักไหล่ ลงมาหาจุด
ข้อศอกของสุนัข เราจะได้เส้นตรงที่จะพุ่งต่อลงมาจดจุดปลายเท้าของสุนัขเลยทีเดียว ส่วนขา มีขาแข็งแรง เหยียดตรงลงมาแบบคู่ขนานกัน และแอ่นเข้าหากันอยู่บ้างและความยาวของลำขานับจากพื้นดินไปจนถึงหัวไหล่ควรจะ
เป็นระยะ 50% ของความยาวของระยะจากข้อศอกไปจนถึงกระดุกสะบักไหล่ ส่วนเท้า แข็งแรง และมีส่วนโค้งที่ดี ขาไม่แอ่นเข้าหากันมากเกินไป ฝ่าเท้าหนาและใหญ่มั่นคง กว้าง และส้นลงต่ำ เล็บแข็งแรง มีสีค่อนข้างดำ
แต่เล็บสีอ่อนไม่ดำก็ใช้ได้ ถ้าทั้งเท้าและเล็บเท้าของสุนัขไม่มีสีดำสนิท ส่วนขาหลัง ขาหลังไม่มีกระดูกที่แข็งแรงเท่ากกับขาหน้า แต่ก็ดูไม่บอบบางแต่อย่างใด ส่วนลำขาหลังด้านบนโค้งเมื่อมองจากด้านข้าง เพราะมีกล้าม
เนื้อที่แข็งแรงยึดจับกับกระดูกสะโพก และกระดูกเชิงกรานของสุนัข ซึ่งกล้ามเนื้อส่วนนี้ก็ประกอบเป็นส่วนหลังของสุนัขด้วย และดังนั้นกล้าม
เนื้อของส่วนเชิงกรานนั้นจะต้องมีความยาวเพียงพอ ขาหลังวางตัวลงมาอย่างขนานเท่าๆกันทีเดียวส่วนลำขาด้านล่างโค้งอยู่บ้างและแข็งแรง ส่วนกระดูกหลังเท้าหน้าจะโค้งและมีส่วนสูงกว่ากระดูกหลังเท้าหลังอยู่บ้าง ส่วนเท้าหลัง ฝ่าเท้าเป็นรูปไข่มากกว่าฝ่าเท้าหน้า แต่นอกจากนั้นก็จะมีลักษณะอื่นๆเหมือนๆกันกับลักษณะของฝ่าเท้าหน้า ส่วนหาง ส่วนโคนหางใหญ่มาก หางมีความยาวพอปานกลาง และเรียวลงมาอย่างรวดเร็วเมื่อไปสู่ส่วนปลายที่ชี้ไปทางส้นเท้าของสุนัข ความสูง สำหรับสุนัขเพศผู้ 65 ถึง 75 ซ.ม. ที่หัวไหล่ สำหรับเพศเมีย 60 ถึง 70 ซ.ม. ที่หัวไหล่ น้ำหนัก สำหรับสุนัขเพศผู้ 50 -65 ก.ก. สำหรับเพศเมีย 40-55 ก.ก. สี สีใดก็ใช้ได้ ยกเว้นแต่ข้อยกเว้นที่มีระบุอยู่ในความส่วนที่เป็นข้อบกพร่องของสุนัขเท่านั้น สำหรับสุนัขในสายพันธุ์ที่มีลายสีต่างๆ นั้นอาจ
จะมีแถบสีตัดเส้นลายเหล่านั้นบ้างก็เป็นได้ หรืออาจจะมีผืนสีดำเป็นหน้ากากอยู่บนใบหน้าก็ได้ ส่วนปลายขาและเท้าอาจจะมีสีขาวเหมือน
สวมถุงเท้าก็ได้ และอาจจะมีสีขาวเด่นที่หน้าอก และดอกที่ปลายหางก็ได้ แต่ก็ไม่ควรมีสีขาวด่างที่จุดอื่นๆของลำตัวอีก หนัง ลักษณะประจำสายพันธุ์อย่างหนึ่งของสุนัขนี้ ก็คือการมีหนังหนาและยืดหย่อนได้ทั่วทั้งตัวและที่คอก็มีเหนียงยานออกมาไม่ใช่น้อย
มีเหนียงยานที่หน้าอกด้วย และหนังที่ส่วนหลังหย่อนยืดได้ก็เห็นมีอยู่เช่นกัน และด้านข้างหัวของสุนัขบางตัวก็มีหนังยืดหย่อนได้นี้อยู่ด้วย
เช่นเดียวกับที่ส่วนสันไหล่และที่ด้านข้างหัวไหล่ด้วย สำหรับหัวจะไม่มีรอยย่นเมื่อสุนัขอยู่ในท่ายืนเต็มตัว แต่เมื่อสุนัขวิ่งควบจะมีรอยยือหย่อน
เล็กๆอยู่ด้วยทางด้านซ้ายของหัวส่วนบน และสุนัขจะยกใบหูขึ้นเพื่อทำให้ผิวหนังหดตัวเป็นลอนๆทำทำให้ดูน่ากลัวขึ้น ส่วนบนผิวหนัง มีขนสั้นๆ นุ่นนวล ดกหนา และเหนียวติดกับหนังเป็นอย่างดี การทดสอบลักษณะนิสัย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุนัขที่มีอายุเกินกว่า 12 เดือน ที่มาเข้าแข่งขันชิงตำแหน่งแชมป์เพราะสำหรับแชมป์สุนัขจะต้องแสดงข้อพิสูจน์ได้ว่า
ผ่านการทดสอบลักษณะนิสัยมาดีแล้ว แต่จะจำเป็นต้องทำการทดสอบดังกล่าวก็ต่อเมื่อเป็นการโชว์ตัวในโอกาสพิเศษจริงๆเท่านั้น และสำหรับ
งานนิทรรศการสุนัขขนานใหญ่ จะมีการทดสอบดังกล่าวหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับความเห็นของกรรมการผู้ตัดสิน ซึ่งหากมีก็จะต้องทำโดยเปิดเผย
ต่อมหาชน และจัดทำการนอกอาณาเขตของสถานที่โชว์สุนัขด้วยการทดสอบนั้น กำหนดไว้ให้ทำกันในท่าทางต่างๆดังต่อไปนี้คือ 1 การโจมตีโดยให้กัดชิ้นไม้ โดยให้สุนัขเข้าโจมตีศัตรูผู้รุกรานจากทางด้านหน้าโดยไม่ให้ฝ่ายเจ้าของสุนัขเข้าช่วยเหลือ แต่มีข้อแม้ว่าผ
ู้รุกรานจะต้องไม่สัมผัสหรือโบยตีสุนัขโดยเด็ดขาด 2 ทดสอบด้วยการยิงปืน โดยยิงปืนสั้นในระยะ 5 เมตร จากตัวสุนัขซึ่งสุนัขควรจะแสดงความสนใจด้วย แต่ก็มีความเชื่อมั่นในตนเองและ
ควบคุมตนเองได้เสมอ 3 และกรรมการตัดสินควรจะทำการวิเคราะห์ลักษณะความประพฤติของสุนัขให้ดีโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงออกของสุนัขโดยภาพรวม
ตลอดงานโชว์ ซึ่งสิ่งที่ควรจะหยิบยกขึ้นพิจารณาในการทดสอบลักษณะนิสัยสุนัขนั้นก็ควรจะได้แก่ข้อต่างๆดังต่อไปนี้คือ 3.1 ความไม่เป็นมิตรกับคนแปลกหน้า 3.2 ความมั่นใจในตนเอง ความกล้าหาญ ความเด็ดเดี่ยวและความห้าวหาญของสุนัขแต่ละตัว
ข้อบกพร่องโดยทั่วไป 1 อัณฑะพวงมีมากกว่าสองลูก 2 อัณฑะเดี่ยวมีเพียงลูกเดียว 3 ความพยายามที่จะผสมพันธุ์ให้แตกต่างออกไป อาทิ ผสมให้มีสีขาวเผือก หรือมีส่วนหนึ่งส่วนใด
ต้องออ่นแอลง เป็นต้น
ข้อบกพร่องที่ยอมรับไม่ได้ 1 ความก้าวร้าวต่อผู้เป็นเจ้าของ 2 ความขี้ขลาด 3 ปลายจมูกเป็นสีชมพู 4 ฟันในชุดปากบนใหญ่กว่าฟันในชุดปากล่าง 5 ฟันในชุดปากล่างใหญ่กว่าฟันในชุดปากบน ทำให้มองเห็นฟันได้แม้จะหุบปากแล้ว 6 ไม่มีเขี้ยวหรือฟันเขี้ยวก่อนกราม (โมล่าร์) ยกเว้นแต่มีเขี้ยวสถานที่ซึ่งก็พอจะยอมรับได้ 7 ตาสีฟ้า (ผสมพลิกแพลงให้มีตาสีฟ้า) 8 หางกุด หรือหูด้วน 9 โคนหางที่จุดสะโพกลาดต่ำกว่าจุดต้นคอ 10 สี สีเผือกขาวตลอดตัวหรือสีเทาขนหนู หรือเป็นสุนัขสีด่างเป็นจุดๆ หรือเป็นโรค
(MERLE SYNDROME) โรคมีสีขนดำปลอด เป็นสีขนกา 11 เตี้ยกว่าเกณฑ์ (เกณฑ์ = 65 ซ.ม. สุนัขเพศผู้ และ 60 ซ.ม. สุนัขเพศเมีย) 12 หนังไม่ยืดหย่อน 13 ก้าวย่างคืบไม่เป็น
ข้อบกพร่องอย่างร้ายแรงมาก 1 มีหัวเล็ก 2 ริมฝีปากบนแห้ง 3 ส่วนหัวคิ้วลาด 4 ตาโปนถลน 5 ฟันขาดไปสองซี่ 6 ไม่มีเหนียงคู่ 7 ไม่มีความตื่นตัว หรือขลาดกลัวเกินไป 8 แสดงอาการตื่นกลัวเสียงประทัดหรือเสียงปืน 9 สันหลังโค้งโก่งกลางเหมือนหลังปลา 10 สันหลังตรงเป็นแผ่นกระดาน 11 หางม้วนขึ้นกลิ้งไปตามสันหลัง 12 กระดูกหลังมือและกระดูกหลังเท้าไม่ตรง 13 ขาหลังทำมุมมากเกินไป 14 ทรวงอกไม่ลึกเพียงพอ 15 เดินตัวลีบเกินไป 16 ตัวสูงเกินมาตรฐาน 17 มีสีขาวมากกว่า 1/4 ของร่างกาย 18 ลูกตาดำสีไม่เข็มอย่างที่ควรจะเป็น 19 ตากลมเกินไป 20 โครงสร้างที่เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส
ข้อบกพร่องที่ร้ายแรง 1จมูกสั้นเกินไป 2 หูเล็กเกินไป 3 หูอยู่ในตำแหน่งที่สูงเกินไป 4 ตาสีอ่อนเกินไป 5 มีรอยย่นบนศรีษะขณะอยู่ในท่าปกติ 6 ฟันล่างยื่นออกมามากกว่าฟันบน 7 ฟันขาดไปสองซี่ 8 มีหนังคล้ายวงแหวนใต้คอที่ไม่ใช่เหนียงคู่ 9 หลังแอ่นเกินไป 10 บั้นท้ายลีบเกินไป 11 หางที่ม้วนเป็นวงกลมบนหลัง 12 ช่วงอกแคบเกินไป 13 ขาไม่ได้รูปตามมาตรฐาน 14 มุมขาหลังส่วนล่างยื่นเกินความเหมาะสม 15 ท่ากระโจนที่ช่วงสั้นเกินไป
ข้อบกพร่องที่ไม่สำคัญนัก ได้แก่ข้อบกพร่องที่เป็นในลักษณะที่ไม่สอดคล้องกับมาตรฐานของพันธุ์ในรายระเอียด สำหรับรายละเอียดมาตรฐานของพันธุ์ปัจจุบันนั้นได้มีผลบังคับใช้มาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2527 ส่วนรายละเอียดมาตรฐานของพันธ
ุ์ฉบับแรกนั้นได้จัดทำกันขึ้นตั้งแต่ปี 2489 โดยได้ทำการแก้ไขเพิ่มเติมครั้งแรกเมื่อปี 2519 ข้อสังเกตุอย่างหนึ่งก็คือว่า ลักษณะหนังตาห้อย เป็นลักษณะประจำเผ่าพันธุ์สุนัขชนิดนี้ ความเห็นในเรื่องของมาตรฐานเผ่าพันธุ์ปัจจุบัน สุนัขพันธุ์ ฟิล่า บราซิลเลียโร่ นี้เป็นสุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากพันธุ์ โมโลส(MOLOSSIAN DOG) ที่มีสัดส่วนที่ได้วิวัฒนาการมาเชิงปรับปรุง
แล้ว ที่มีคุณลักษณะเด่นออกมาในเรื่องของความคล่องแคล่วว่องไว สุนัขเพศเมียที่ลำตัวไม่กว้างเหมือนเพศผู้ แต่มีหัวที่แหลมกว่าแสดง
เพศเมียเห็นได้ชัด ทำให้ต่างกัน สุนัขเพศผู้ที่มีความแข็งแรงกว่า ดุร้ายกว่า จะห้าวหาญยิ่งกว่ากัน ที่จำเป็นต้องมีหัวที่ใหญ่หนากว่ากันอยู่อย่างมาก เมื่อมองกันในแง่ของลักษณะและอารมณ์ สุนัขฟิล่า บราซิลเลียโร่ นั้นเป็นสุนัขที่กล้าหาญมากและปฏิบัติการได้อย่างรวดเร็วอย่างที่เราเรียก
ว่าปานดั่งสายฟ้าแลบพุ่ง และสามารถเปลี่ยนจากท่าปกติ มาเป็นลักษณะการเข้าโจมตีเพื่อป้องกันนายของเขาได้อย่างฉับพลัน โดยฟิล่า
จะมีสัญชาติญารอันแม่นยำอยู่เสทอในการตัดสินใจได้ว่าใครจะมาทำอันตรายต่อฝ่ายตนได้ และแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อเลย และฝ่ายเจ้าของฟิล่า
ก็จะต้องทำหน้าที่ส่วนของตนในการยุ หรือในการจับรั้งและปลอบโยน เพื่อชี้นำสุนัขของตนให้สามารถทำสิ่งที่ถูกต้องได้ต่อไป ดังนั้นจิตใจ
อันแน่วแน่เด็ดเดี่ยวของฟิล่าที่จะรับใช้นายของเขา ทำให้สุนัขพันธุ์นี้มีคุณลักษณะอันหาได้ยากในสุนัขพันธุ์อื่น นอกจากนั้นฟิล่า ยังเป็นสุนัขที่รักเด็กๆในครอบครัวมากทำให้เราทราบดีว่าสุนัขพันธุ์นี้มีใจอ่อนโยนเป็นอย่างยิ่ง ลักษณะความเคลื่อนไหว ฟิล่าเป็นสุนัขนักวิ่ง ที่ควรจะได้รับการเลี้ยงดูให้ถูกต้องกับคุณลักษณะของเขาเฉพาะในด้านนี้ด้วย สุนัขพันธุ์นี้วิ่งเรียบ นิ่มนวล และหยุ่นไหว
เมื่อควบเต็มที่และขณะวิ่ง ลำตัวอันสืบเนื่องมาจากสายพันธุ์โมโลสเชี่ยนของมันทำให้ลำตัวฟิล่าดูนุ่มนวลในการเคลื่อนไหวราวกับเสือซึ่งส่วนใหญ่ก็
จะเนื่องมาจากท่าทางของการเคลื่อนไหวของส่วนเท้าของฟิล่านั่นเอง และฟิล่าจสามารถย่องได้อีกด้วย โดยมีจังหวะการเคลื่อนไหวของ
ขาแต่ละข้างอย่างแน่นอน แต่จังหวะการลงตัวของฝ่าเท้ากับพื้นดินไม่แน่นอนนัก ซึ่งก็จะเป็นเหตุที่ต่อเนื่องไปจนถึงส่วนหางของสุนัขทำให้
หางสุนัขเคลื่อนไหวไปมาจากซ้ายมาขวาอยู่เรื่อยๆ และฟิล่าจะก้มหัวต่ำลงมา ต่ำกว่าแนวสันหลังในขณะวิ่ง ฟิล่าวิ่งเหยาะได้อย่างไม่ลำบากและก้าวได้ยาวๆ และเมื่อวิ่งควบก็มีพลังมากและยังสามารถเปลี่ยนทิศทางได้อย่างฉับพลันอีกด้วย การแสดงออก ฟิล่าดุเดือดในเวลาวิ่ง และแสดงความร้อนแรง แต่เมื่ออยู่ในท่าพักจะมีความสง่างาม สงบและผ่อนคลาย สุนัขพันธุ์นี้ไม่เคยแสดงลักษณะของจิตว่างหรือเหนื่อยหน่ายและสามารถรวมสมาชิกจดจ่ออยู่กับสิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ทุกขณะจิต สายตาจะมองขึ้นสูง
มีลักษณะเหมือนลูกนัทอัลมอนด์ จะมีแววแสดงความเด็ดเดี่ยว และเกือบจะเรียกว่าท้าทายอยู่เสมอ ใครก็ตามที่พยายามมองสุนัขพันธุ์นี้จ้อง
ตรงตาต่อตา จะมีความรู้สึกตอบสนองทางด้านสุนัขในทันทีทีเดียว ลักษณะความใหญ่หนักแน่นและแข็งแรงอย่างหนึ่งของสุนัขพันธุ์นี้ ก็ได้แก่ รูปลักษณะของหัวของฟิล่า และก็ด้วยรูปของหัวที่ผิดแผก
แตกต่างไปจากสุนัขพันธุ์โมลาสเชี่ยนอื่นๆเป็นอย่างมาก โดยฟิล่ามีส่วนหัวได้สัดส่วนกับลำตัวเป็นอย่างยิ่ง แต่กมิใช่มีลักษณะเป็นสุนัขแบบ
ที่มีลำจมูกหดย่น(BRACHYCEPHAL) แต่เป็นสุนัขที่มีลำจมูกไม่ยาว ความยาวของลำจมูกเท่ากับความยาวของระยะจากหัวคิ้วมาถึงท้ายทอย
พอดี และไม่มีส่วนโค้งบนหลังหัวสุนัข โดยมีผิวหนังที่ส่วนนี้ย่นเป็นร่อง เมื่อมองจากทางด้านข้างและดูคล้ายจะเห็นว่ามีส่วนหลังอยู่ด้านบนของ
หัวสุนัขนั้น เกิดจากสัดส่วนของกระดูกและผิวหนังเหนือคิ้ว ส่วนโคนจมูกเมื่อมองจากด้านข้างจะตรงและมาตัดเส้นลงดิ่งเป็นมุมฉากเมื่อถึง
ปลายจมูกเพื่อลงไปหาปากแล้วก็ตัดมุมด้วยขอบกลมเมื่อเดินเป็นเส้นตรงเป็นเส้นใต้คาง อันเกือบจะขนานกับเส้นบนสันจมูกของฟิล่าเมื่อเลา
นั้งพัก ด้านบนหัวสุนัขจะไม่แสดงรอยย่นอย่างใด ยกเว้นแต่ส่วนขอบตาที่จะมีรอยย่นลงมาเป็นทางดิ่งและเมื่ออยู่ในท่าพัก ส่วนจมูก ส่วนขอบ
มุมดวงตา และส่วนโคนหู จะเป็นเส้นตรงทั้งหมด สำหรับใบหูจะมีรอยย่น มีสันนิษฐานได้รับมรดกมาจากสายพันธุ์บลูด็อก ก็ได้ แต่ลักษณะใดที่ไปเหมือนกับลักษณะของสายพันธุ์อื่นใดที่อาจจะได้รับการผสมข้ามพันธุ์กันมาก็จะต้องถือว่าเป็นลักษณะที่ผิดทั้งสิ้น
อาทิ จมูกสั้นย่น เส้นขอบปากที่โค้งลงต่ำ มีรอยย่นบนหัวมากเกินไป ไม่มีเหนียงใต้คาง ส่วนบนของหัวป้อมกลม และลักษณะขอบหนังยืดหย่อน
ได้ก็เป็นลักษณะเฉพาะของฟิล่า บราซิลเลียโร่ อีกอย่างหนึ่ง เมื่อเราหิ้วลูกฟิล่า โดยจับหนังที่หลังต่อไหล่ และที่โคนหางจะได้ตัวลูกสุนัขที่ลอย
ตาม"ถุง"หนังขึ้นมา อันเป็นถุงหนังที่มีขนาดใหญ่กว่าตัวสุนัขมากทีเดียว ทำให้ฟิล่าใช้หนังที่ยืดหย่อนของเขานี้เป็นเครื่องป้องกันชีวิตของเขา
ได้เป็นอย่างดี เมื่อทำการต่อสุ่กับสัตว์ที่กินเนื้อทั้งหลาย เพราะใครก็จะกัดฟิล่าได้แต่ส่วนหนังเท่านั้นไม่ถึงเนื้อและก็กัดไม่เข้าด้วย สี สีใดก็ใช้ได้ ยกเว้นสีเทา หรือขาวปลอด นับแต่วันที่ 1 มกราคม 2527 เป็นต้นมาอันเป็นวันที่ประกาศใช้รายละเอียดมาตรฐานพันธุ์ฉบับใหม่
ซึ่งก็อนุญาตให้ส่วนสีด่างมีพื้นที่ไม่เกิน 1/4 ของพิ้นที่ผิวหนังสุนัขทั้งหมด ขนาด เมื่อพูดถึงขนาดของฟิล่า บราซิลเลียโร่ ตามเทพนิยายโบราณ สุนัขนี้ได้รับการบรรยายรูปลักษณ์ว่าเป็นสุนัขขนาดใหญ่ หนัก
และมีอันตรายที่สุด แต่ตามรายละเอียดมาตรฐานพันธุ์ สุนัขนี้มีขนาดเพียงปานกลางเท่านั้น โดยมีความสูงที่หัวไหล่ประมาณ 60 ถึง 75 ซม.
(เปรียบเทียบกับสุนัขบ๊อกเซอร์ ที่มีขนาด 57ถึง 63 ซ.ม.) น้ำหนัก สุนัขเพศผู้ ประมาณ 60 ถึง 65 กิโลกรัม เพศเมีย 50 ถึง 55 กิโลกรัม
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น