ประวัติ การเลี้ยงปลากัดของไทย

 ปลากัดถูกจัดอยู่ในอันดับ (Order)Perciformes
 ครอบครัว (Family)Belontiidae
 ชื่อวิทยาศาสตรส์ว่า Betta splendens Regan

           ปลากัด เป็นปลาพื้นเมืองของไทย พบแพร่กระจายทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย อาศัยอยู่ในอ่างเก็บน้ำ ทะเลสาบ หนอง บึง แอ่งน้ำ ลำคลอง ฯลฯ ในบริเวณที่มีระดับน้ำตื้นๆ น้ำค่อนข้างใส น้ำนิ่งหรือไหลเอื่อยๆมีพันธุ์ไม้น้ำขึ้นประปราย ชอบว่ายน้ำช้าๆ บริเวณผิวน้ำ เป็นปลาที่มีขนาดเล็ก ลำตัวยาวแบน ข้างหัวเล็ก ปากขนาดเล็ก เชิดขึ้นด้านบนเล็กน้อยมีฟันที่ขากรรไกรบน และขากรรไกรล่าง มีเกล็ดปกคลุมหัวและลำตัว ความยาวจากปลายจะงอยถึงโคนหางยาว 2.9-3.3 เท่า ของความกว้างลำตัว และ 3.0-3.3 เท่า ของความยาวหัว จุดเริ่มต้นของครีบหลังอยู่ค่อนไปทางด้านหางหลังจุดเริ่มต้นของครีบก้น ครีบหลังมีก้านครีบเดียว 1-2 ก้าน ก้านครีบแขนง 7-9 ก้าน ครีบก้นมีฐานครีบยาวมาก เริ่มจากครีบท้องไปสุดที่โคนครีบหางมีก้านครีบเดียว 2-4 ก้าน และก้านครีบแขนง 21-24 ก้าน ครีบอกมีขนาดเล็กกว่าครีบอื่นๆ ปลากัดไม่มีเส้นข้างตัว กระดูกที่อยู่ด้านหน้าของตา(Preorbital) มีขอบเรียบ มีอวัยวะพิเศษช่วยในการหายใจนอกจากเหงือกเรียก Labyrinth organ อยู่ในโพรงอากาศหลังช่องเหงือก มีลักษณะเป็นเนื้อเยื่อที่มีรอยหยัก และมีเส้นเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยงมากมาย แต่ในปลาวัยอ่อนจะไม่พบอวัยวะช่วยหายใจดังกล่าว จะเริ่มเกิดเมื่อปลามีอายุ 10 วัน จากการที่ปลากัดต้องใช้อวัยวะช่วยในการหายใจ ทำให้ปลาต้องโผล่ขึ้นมาฮุบอากาศที่ผิวน้ำเสมอ และจากสาเหตุนี้ทำให้ปลากัดสามารถอยู่ในน้ำที่ไม่มีออกซิเจนได้
         
             ปลากัดมีนิสัยก้าวร้าว ปลาเพศผู้จะต่อสู้กันและชอบทำร้ายปลาเพศเมียในเวลาผสมพันธุ์ แต่ในปลาวัยอ่อนยังไมพบว่ามีพฤติกรรมก้าวร้าวปลาเริ่มแสดงนิสัยชอบก้าวร้าวเมื่ออายุได้ 1.5-2 เดือน และจากลักษณะนิสัยนี้เองทำให้ประเทศไทยมีประวัติการใช้ปลากัดต่อสู้กัน ทั้งเพื่อเกมกีฬาและการพนัน จนเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกมานับร้อยปีแล้ว ในการเลี้ยงปลากัดเพื่อการต่อสู้นั้น มีการคัดเลือกพันธุ์ให้มีคุณสมบัติเฉพาะที่สามารถใช้ในการต่อสู้โดยเริ่มต้นจากการรวบรวมปลาจากแหล่งน้ำธรรมชาติที่เรียกกันว่าปลากัดป่าหรือปลากัดทุ่ง ที่มีลำตัวค่อนข้างเล็ก บอบบาง สีน้ำตาลขุ่น หรือเทาแกมเขียวนำมาเพาะเลี้ยงและคัดสายพันธุ์หลายชั่วอายุจนได้ปลาที่มีรู้ร่างแข็งแรงลำตัวหนาและใหญ่ขึ้น ว่ายน้ำปราดเปรียว สีสันสวยสด เช่น สีแดงเข้ม สีน้ำเงินเข้ม สีน้ำตาลเข้ม หรือสีผสมระหว่างสีดังกล่าว และเรียกปลากัดที่ได้จากการคัดพันธุ์เพื่อการต่อสู้นี้ว่า ปลากัดหม้อ หรือปลากัดลูกหม้อปลากัดไทยมีผู้พยายามคัดพันธุ์ปลากัดโดยเน้นความสวยงามเพื่อเลี้ยงไว้ดูเล่นโดยคัดพันธุ์เพื่อให้ได้ปลาที่มีครีบยาว สีสวย จนปัจจุบันประเทศไทยสามารถผลิตปลากัดที่มีสีสันสดสวยมากมายหลายสี เช่น สีเขียว สีม่วง สีแดง สีน้ำเงิน ฯลฯ กับความยาวลำตัวและหัวรวมกัน ซึ่งนิยมเรียกปลากัดลักษณะเช่นนี้ว่า ปลากัดจีน หรือปลากัดเขมร ต่างประเทศรู้จักปลากัดในนาม Siamese Fighing Fish ปัจจุบันปลากัดเป็นปลาที่สามารถส่งขายต่างประเทศนำรายได้เข้าประเทศเป็นอันดับหนึ่งของปลาไทยทั้งหมด เพราะนอกจากจะเป็นปลาที่มีสีสันสดสวย ครีบยาวพริ้วสวยงามแล้วยังมีคุณสมบัติในเชิงต่อสู้เพื่่อความตื่นเต้นให้แก่ผู้เลี้ยงอีกด้วย
                ปลากัด เป็นที่รู้จักกันดีของคนไทยมาเป็นเวลาช้านาน ก็เนื่องจากว่าปลากัดมีลักษณะพิเศษคือ เป็นปลานักสู้-ทรหด อดทน เป็นเหตุให้คนนำมากัดแข่งขันกัน กลายเป็นเกมกีฬาที่คนไทยนิยมเล่นกันมาตั้งแต่สมัยโบราณโดยเฉพาะคนในท้องถิ่นชนบท
                ตามตำนานการกัดปลาจะเริ่มมีมาตั้งแต่เมื่อใดไม่มีหลักฐานปรากฎแน่ชัดมีเรื่องเล่าต่อๆ กันมาว่า ในสมัยอยุธยา พวกมอญ พม่า เอากลองยาวมาเผยแพร่ให้คนไทยได้มีการละเล่นในเทศกาลงานประเพณีต่างๆ ซึ่งมีเนื้อหาของเพลงว่า พม่ารำขวาน พวกชาวบ้านตีกลอง... ส่วนคนไทยก็มักจะสอนการเล่นปลากัดเป็นการตอบแทน หรีอเป็นการเชื่อมสัมพันธภาพระหว่างประเทศพม่า ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้าน
                อนุกรมวิธานของปลากัด นักอนุกรมวิธานได้จัดปลากัดอยู่ใน Orderabyrinthici Sub-order Anabantoidea และ Family Anabantidae สำหรับในประเทศไทยทั้งชนิดที่วางไข่ และอมไข่ เท่าที่ค้นพบปัจจุบัน และมีการตั้งชื่อเรียบร้อยมีดังนี้ ปลากัดกลุ่มอมไข่ มี Betta simplex Betta prima,Betta prima,Betta pi Betta pugnax และ Betta sp. ซึ่งเป็นชนิดที่ค้นพบใหม่
               ส่วนกลุ่มที่ก่อหวอด มี Betta splendens,Betta smaragdina, และ Betta imbellis และ Betta sp. ส่วนปลาที่เรามักพบเห็นและเรียกเป็นปกติปลากัดนั้น ไม่ว่าจะเป็นปลากัดหม้อ หรื่อปลาจีนจหมายถึงปลากัดที่ได้รับการพัฒนามาจากชนิดที่พบในภาคกลาง คือ มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Betta Splendens
               

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม