มะดัน สรรพคุณและประโยชน์ของมะดัน 25 ข้อ !

มะดัน สรรพคุณและประโยชน์ของมะดัน 25 ข้อ !

มะดัน
ผู้สนับสนุน 

มะดัน

มะดัน ชื่อสามัญ Madan (ตรงตัว)
มะดัน ชื่อวิทยาศาสตร์ Garcinia schomburgkiana Pierre จัดอยู่ในวงศ์มังคุด (CLUSIACEAE หรือ GUTTIFERAE)
สมุนไพรมะดัน มีชื่อเรียกอื่น ๆ ว่า ส้มมะดัน, ส้มไม่รู้ถอย เป็นต้น

ลักษณะของมะดัน

  • ต้นมะดัน เป็นไม้ยืนต้น ไม่ผลัดใบ สูงประมาณ 7-10 เมตร แตกกิ่งก้านออกเป็นพุ่ม ลักษณะของเปลือกต้นจะเรียบ สีน้ำตาลอมอมดำ ลักษณะของ
ต้นมะดัน
  • ใบมะดัน เป็นใบเดี่ยว สีเขียวเข้ม รูปขอบขนาน ขอบใบเรียบ ออกเรียงสลับกัน โคนใบและปลายใบแหลม แผ่นใบเรียบลื่น
  • ดอกมะดัน เป็นดอกเดี่ยวหรือออกดอกเป็นกระจุกประมาณ 3-6 ดอก โดยดอกจะออกตามซอกใบ ดอกมีสีเหลืองอมส้มนิด ๆ ดอกมีทั้งดอกสมบูรณ์เพศและดอกเพศผู้ มีกลีบเลี้ยง 4 กลีบ ค่อนข้างกลม กลีบดอกมี 4 กลีบ คล้ายรูปแกมรูปไข่ ส่วนปลายกลีบจะมน และดอกเพศจะมีเกสเพศผู้อยู่ 10-12 อัน
  • ผลมะดัน หรือ ลูกมะดัน ลักษณะของผลจะคล้ายรูปรีปลายแหลม ผลมีสีเขียว ลักษณะผิวเรียบเป็นมันลื่น ผลมีรสเปรี้ยวถึงเปรี้ยวจัด ด้านในผลมีเมล็ดประมาณ 3-4 เมล็ดติดกัน เมล็ดแข็งและขรุขระ โดยในผลจะมีวิตามินซีสูง และยังมีสารอาหารหรือสารสำคัญอย่างเบต้าแคโรทีน รวมไปถึงแร่ธาตุชนิดต่าง ๆ เช่น แคลเซียม เหล็ก ฟอสฟอรัส เป็นตัน

สรรพคุณของมะดัน

  1. ดอกมะดันในทางเภสัชวิทยาพบว่ามะดันมีสารสำคัญซึ่งมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้
  2. สรรพคุณมะดัน ผลช่วยแก้อาการคอแห้ง ช่วยทำให้ชุ่มชื่นคอ (ผล)
  3. ใบและรากปรุงเป็นยาต้มรับประทานแก้กระษัย (รก,ราก,ใบ,ผล,เปลือกต้น
  4. ใบปรุงเป็นยาต้ม ช่วยขับฟอกโลหิต (รก,ราก,ใบ,ผล,เปลือกต้น)
  5. ช่วยแก้เบาหวาน (ราก)
  6. มะดัน สรรพคุณช่วยรักษาไข้หวัด (รก,ราก,ใบ,ผล,เปลือกต้น)
  7. ช่วยแก้ไข้ทับระดู (รก,ราก,เปลือกต้น)
  8. ช่วยแก้อาการหวัด (ใบ)
  9. ช่วยแก้อาการไอ ด้วยการทำเป็นยาสูตรดองเปรี้ยวเค็ม (ใบ,ผล)
  10. ใช้เป็นยาแก้เสมหะ เสมหะพิการ กัดเสมหะในลำคอได้เป็นอย่างดี หรือจะปรุงเป็นยาต้มกินก็ได้ (รก,ราก,ใบ,ผล,เปลือกต้น)
  11. สรรพคุณของมะดัน ผลใช้ทำเป็นยาดองเปรี้ยวเค็ม ช่วยฟอกเสมหะ ล้างเสมหะ (ผล)ลูกมะดัน
  12. ผลมะดันนำมาดองน้ำเกลือ ใช้รับประทานเพื่อแก้อาการน้ำลายเหนียว หรือเป็นเมือกในลำคอ (ผล)
  13. ใช้เป็นยาระบายอ่อน โดยปรุงเป็นยาต้ม (ราก)
  14. ช่วยขับปัสสาวะ (ราก,ใบ)
  15. ใบมะดัน และรากปรุงเป็นยาต้มช่วยแก้ระดูเสียในสตรี แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ หรือจะทำเป็นยาดองเปรี้ยวเค็มก็ได้เช่นกัน (ราก,ใบ,ผล)
วิธีการปรุงเป็นยาต้ม ด้วยการใช้ใบหรือผลประมาณ 1 กำมือ ใส่น้ำพอท่วมยา แล้วต้มให้เดือดประมาณ 10 นาที และบางตำราบอกให้ต้มแบบไม่ใช้ไฟแรง ให้น้ำค่อยเดือด ๆ และต้ม 3 ส่วน เคี่ยวจนเหลือ 1 ส่วน โดยขนาดที่รับประทานคือ ครึ่งแก้วถึงหนึ่งแก้ว (125-250 cc) สรรพคุณช่วยแก้กระษัย ฟอกโลหิต ฟอกประจำเดือน เป็นยาระบายอ่อน ๆ แต่สำหรับผู้ที่โรคโลหิตจางไม่ควรรับประทานอาหารหรือยาที่มีรสเปรี้ยวเพราะจะยิ่งไปกัดฟอกโลหิตมากขึ้น และอาจทำให้เกิดอันตรายต่อร่างกายได้
ผู้สนับสนุน

ประโยชน์ของมะดัน

  1. ประโยชน์ของมะดัน ช่วยในการผลัดเซลล์ผิวได้ เพราะมีสารกลุ่ม AHA และ BHA โดยได้การนำมาใช้ในวงการเครื่องสำอาง ใช้เป็นส่วนผสมในสบู่โทนเนอร์ ครีมบำรุงผิว เป็นต้น
  2. มีการนำมะดันมาทำเป็นน้ำหมักชีวภาพแล้วกรองเอาน้ำมาใช้ บ้างก็ใช้ปรุงในเครื่องดื่ม บ้างก็นำไปใช้ทำเป็นโทนเนอร์เช็ดหน้า
  3. ประโยชน์มะดัน ผลใช้รับประทานเป็นผลไม้สด โดยจิ้มกับพริกเกลือ
  4. ผลสามารถนำไปแปรรูปเป็น มะดันแช่อิ่ม หรือ มะดันดองแช่อิ่ม
  5. ผลมีรสเปรี้ยวจัดใช้แทนมะนาวได้ เช่น การตำน้ำพริก น้ำพริกลงเรือ น้ำพริกทรงเครื่อง น้ำพริกสับกากหมู หรือใช้ใส่ในแกงที่ต้องการความเปรี้ยวอย่างแกงส้มหรือต้มยำ เป็นต้น
  6. ยอดอ่อนและใบอ่อนใช้รับประทานเป็นผักได้
  7. ยอดอ่อนนำมาใส่ต้มปลา ต้มไก่ จะให้รสเปรี้ยวแทนมะนาวได้และยังทำให้มีรสชาติของอาหารหวานและหอมขึ้นด้วย
  8. กิ่งของมะดันนำมาใช้หนีบไก่ปิ้ง หรือไก่ปิ้งไม้มะดัน จะช่วยทำให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทานยิ่งขึ้น
  9. ต้นมะดัน เป็นไม้ที่ทนน้ำท่วมขังได้ดีมากที่สุดชนิดหนึ่ง มันจึงเหมาะถ้าจะปลูกไว้ในบริเวณที่อาจเกิดน้ำท่วม
  10. ต้นมะดันมีทรงพุ่มที่สวยงาม จึงเป็นต้นไม้ที่สามารถใช้ประดับสถานที่ได้เป็นอย่างดี

คุณค่าทางโภชนาการของผลมะดัน ต่อ 100 กรัม

  • คาร์โบไฮเดรต 6.5 กรัมใบมะดัน
  • ไขมัน 0.1 กรัม
  • โปรตีน 0.3 กรัม
  • เส้นใย 0.4 มิลลิกรัม
  • วิตามินเอ 431 หน่วยสากล
  • วิตามินบี2 0.04 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 5 มิลลิกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 17 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 7 มิลลิกรัม
  • ธาตุเหล็ก 0 มิลลิกรัม

คุณค่าทางโภชนาการของใบอ่อนมะดัน ต่อ 100 กรัม

  • คาร์โบไฮเดรต 7.3 กรัมมะดัน
  • ไขมัน 0.1 กรัม
  • โปรตีน 0.3 กรัม
  • วิตามินเอ 225 หน่วยสากล
  • วิตามินบี1 0.01 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี2 0.04 มิลลิกรัม
  • วิตามินบี3 0.02 มิลลิกรัม
  • วิตามินซี 16 มิลลิกรัม
  • ธาตุแคลเซียม 103 มิลลิกรัม
  • ธาตุฟอสฟอรัส 8 มิลลิกรัม
วิธีการทำเป็นยาดองเปรี้ยวเค็ม ด้วยการใช้ผลมะดันนำยาบดเป็นผงหยาบ ๆ ห่อด้วยผ้าขาวบางหลวม ๆ แล้วใส่ไว้ในโหลแก้ว เติมเหล้าให้ท่วมผ้าห่อยา แช่ทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน ในระหว่างที่แช่ให้บีบผ้าห่อยาบ่อย ๆ เพื่อให้ตัวยาออกมา เมื่อครบ 7 วันให้นำมารับประทานครั้งละ 1 แก้ว
แหล่งอ้างอิง : เว็บไซต์สำนักงานโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, เว็บไซต์สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตรมหาวิทยาลัยแม่โจ้, เว็บไซต์หมอชาวบ้าน
ภาพประกอบ : www.lanpanya.com (aram), bloggang.com, pharmacy.msu.ac.th, siamfishing.com (ป้าแอ้เข้าครัว)
เรียบเรียงข้อมูลโดย MedThai (ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด)
ผู้สนับสนุน 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม