21 สรรพคุณและประโยชน์ของอัลมอนด์ ! (Almond)
21 สรรพคุณและประโยชน์ของอัลมอนด์ ! (Almond)
ผู้สนับสนุน
อัลมอนด์
อัลมอนด์หรือ แอลมอน, แอลม่อน, แอลมอนด์, อัลมอล (Almond – ออกเสียงในภาษาอังกฤษจะอ่านว่า อามึนด์ หรือ แอมึนด์ โดยไม่มีเสียงตัวแอล แต่สำหรับในภาษาไทยเราจะนิยมอ่านและสะกดว่า อัลมอนด์ หรือ แอลมอนด์ มากกว่า
อัลมอนด์ ชื่อวิทยาศาสตร์ Prunus dulcis (Mill.) D.A.Webb (ชื่อพ้องวิทยาศาสตร์ Prunus amygdalus Batsch) จัดอยู่ในวงศ์กุหลาบ (ROSACEAE) และเป็นพืชพื้นเมืองในตะวันออกกลางและเอียใต้
ต้นอัลมอนด์ เป็นไม้ผลัดใบสูงประมาณ 4-10 เมตร ใบเป็นขอบหยักยาวประมาณ 3-5 นิ้ว ดอกอัลมอดน์มีสีขาวหรือชมพูอ่อน มีกลีบ 5 กลีบ ผลอัลมอนด์ ผลดิบเป็นสีเขียว เมื่อแก่จะเป็นสีน้ำตาล ในผลมีเมล็ดเดียว มีเปลือกชั้นนอกอยู่และมีเปลือกแช็งหุ้มเมล็ด โดยเมล็ดสามารถนำมารับประทานได้ และอัลมอนด์นั้นจะขายทั้งแบบพร้อมเปลือกแบบไม่มีเปลือก หรือนำไปผ่านน้ำร้อนเพื่อทำให้เปลือกอ่อนและเมล็ดยังเป็นสีขาว
ถั่วอัลมอนด์ เป็นถั่วที่มีคุณค่าทางสารอาหารต่อร่างกายสูงกว่าถั่วชนิดอื่น ๆมาก และยังติด 1 ใน 10 ของสุดยอดอาหารเพื่อสุขภาพอีกด้วย ถ้าคุณได้เห็นคุณค่าทางโภชนาการของถั่วชนิดนี้เมื่อเทียบกับผลและผลไม้ชนิดอื่น ๆ แล้วคุณจะต้องตกใจ เพราะมีวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น และแถมยังมีปริมาณที่มากเสียด้วย
อัลมอนด์ อ้วนไหม? คงเป็นคำถามที่หลาย ๆคนคงสงสัย เพราะถ้าดูตามปริมาณไขมันในถั่วชนิดนี้ต่อ 100 กรัมแล้ว คุณอาจจะต้องตกใจ เพราะมันมีไขมันมากถึง 49.42 กรัม (เยอะมาก) แต่มันน่าประหลาดใจ ที่มันสามารถช่วยลดน้ำหนักและความอ้วนได้จริง ๆ หากรู้จักรับประทานในปริมาณเหมาะสมและสม่ำเสมอ โดยจากการศึกษาของ International Journal of Obesity พบว่าผู็ที่รับประทานอัลมอนด์วันละ 70 เมล็ดอัลมอนด์จะช่วยลดรอบเอวได้ถึง 7 นิ้ว !! ซึ่งมากกว่าผู้ที่ไม่รับประทานถึง 2 นิ้ว ทั้งนี้เป็นเพราะว่าการรับประทานอัลมอนด์จะช่วยลดการทานจุบจิบหรือขนมขบเคี้ยว และลดระดับไขมันเลวได้เป็นอย่างดี
ประโยชน์ของอัลมอนด์
- อัลมอนด์ ประโยชน์ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
- ช่วยในการชะลอวัยและการเกิดริ้วรอยแห่งวัยได้ดี
- ประโยชน์ของอัลมอนด์ ช่วยเพิ่มพลังงานให้กับร่างกาย
- ช่วยบำรุงระบบประสาท และช่วยเพิ่มสติปัญญาและสมาธิให้มากขึ้น
- ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์
- ช่วยเสริมสร้างเซลล์และซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณ เส้นผม เล็บ ฯลฯ
- การรับประทานอัลมอนด์เป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจวายได้ถึง 50%
- ในเปลือกอัลมอนด์มี ฟลาโวนอยส์ (Flavonoids) ที่สามารถทำงานร่วมกับวิตามินอี ในการช่วยปกป้องผนังหลอดเลือด จึงทำให้ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดได้ (งานวิจัยจาก Tufts University)
- ช่วยบำรุงและเสริมสร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน
- ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ป้องกันการเกิดโรคเบาหวานได้ถึง 30-50% เพราะช่วยในการหลั่งอินซูลินหลังอาหาร ทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดที่เพิ่มขึ้นถูกดูดซึมเก็บไว้ที่ตับและเนื้อเยื่ออื่น ๆ จึงมีผลทำให้สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้
- อัลมอนด์ลดน้ําหนัก จากงานวิจัยหลายอย่างระบุว่า ผู้ที่รับประทานถั่วหรืออัลมอนด์เป็นประจำ จะมีน้ำหนักตัวลดลงโดยเฉลี่ยมากกว่าผู้ที่ไม่เคยรับประทานถั่ว โดยผู้ที่รับประทานถั่วอัลมอนด์อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ร้อยละ 31% พบว่ามีน้ำหนักตัวที่ลดลง ถึงแม้ว่าถั่วอัลมอนด์จะมีไขมันที่สูงมากก็ตาม (บทความจาก WHFoods)
- อัลมอนด์ลดความอ้วน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย ช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL)และลดระดับไขมันเลว (LDL) ในร่างกาย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยงานวิจัยจากสถาบันชั้นนำในอเมริกาและยุโรปพบว่าการรับประทานอัลมอนด์วันละ 1 หยิบมือจะช่วยลดระดับไขมันเลวได้ถึง 4.4% แต่ถ้ารับประทานวันละ 2 หยิบมือก็จะช่วยลดระดับไขมันเลวได้ 9.4%
- สรรพคุณ อัลมอนด์ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี
- สรรพคุณของอัลมอนด์ ช่วยป้องกันอาการท้องผูก เนื่องจากอัลมอนด์มีเส้นใยอาหารในปริมาณมาก มันจึงช่วยในการขับถ่ายและป้องกันอาการท้องผูกได้เป็นอย่างดี
- อัลมอนด์ สรรพคุณช่วยป้องกันการเกิดโรคนิ่ว จากฐานข้อมูลจากNurses’ Health Study จากผู้หญิงกว่า 80,000 รายแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่รับประทานถั่วอย่างน้อย 1 ออนซ์ต่อสัปดาห์จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคนิ่วได้ถึง 25%
- อัลมอนด์ เป็นถั่วที่มีโปรตีนสูงมาก ซึ่งมีประโยชน์ในเรื่องของการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ สร้างความเจริญเติบโต ให้พลังงานแก่ร่างกาย ช่วยรักษาสมดุลของกรดด่างในร่างกาย ฯลฯ
- เมล็ดอัลมอนด์ มีโพสแทสเซียมสูง ซึ่งเป็นตัวช่วยในการควบคุมความดันโลหิต
- การรับประทานอัลมอนด์จะช่วยลดการกินจุบจิบ และการรับประทานทุกวันก็จะช่วยระงับความหิวได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นการไดเอทไปด้วยในตัวเลยทีเดียว
- สำหรับผู้ที่กังวลเรื่องน้ำหนักตัว คุณสามารถรับประทานถั่วอัลมอนด์แทนของหวานหรือขนมขบเคี้ยวในระหว่างวันได้อย่างสบายใจ นอกจากจะไม่ทำให้อ้วนแล้วยังได้คุณค่าจากธรรมชาติไปเต็ม ๆ และยังช่วยลดน้ำหนักไปในตัวด้วย
- นอกจากนี้อัลมอนด์ยังเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เพราะถั่วชนิดอุดมไปด้วยกรดโฟลิกที่จำเป็นอย่างมากสำหรับเด็กทารกในครรภ์
- เมล็ดอัลมอนด์สามารถนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้หลายอย่าง เช่น อัลมอนด์อบเกลือ อัลมอนด์อบเนย คุกกี้อัลมอนด์ เค้กอัลมอนด์ น้ำมันอัลมอนด์ ฯลฯ
ผู้สนับสนุน
คุณค่าทางโภชนาการของอัลมอนด์ ต่อ 100 กรัม
- พลังงาน 576 กิโลแคลอรี่
- คาร์โบไฮเดรต 21.69 กรัม
- แป้ง 0.74 กรัม
- น้ำตาล 3.89 กรัม
- แล็กโทส 0.00 กรัม
- เส้นใย 12.2 กรัม
- ไขมัน 49.42 กรัม
- กรดไขมันอิ่มตัว 3.731 กรัม
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 30.889 กรัม
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 12.070 กรัม
- โปรตีน 21.22 กรัม
- ทริปโตเฟน 0.214 กรัม
- ทรีโอนีน 0.598 กรัม
- ไอโซลิวซีน 0.702 กรัม
- ลิวซีน 1.488 กรัม
- ไลซีน 0.580 กรัม
- เมทไธโอนีน 0.151 กรัม
- ซีสทีน 0.189 กรัม
- ฟีนิลอะลานีน 1.120 กรัม
- ไทโรซีน 0.452 กรัม
- วาลีน 0.817 กรัม
- อาร์จินีน 2.446 กรัม
- ฮีสติดีน 0.557 กรัม
- อะลานีน 1.027 กรัม
- กรดแอสพาร์ติก 2.911 กรัม
- กรดกลูตามิก 6.810 กรัม
- ไกลซีน 1.469 กรัม
- โพรลีน 1.032 กรัม
- ซีรีน 0.948 กรัม
- น้ำ 4.70 กรัม
- วิตามินเอ 1 หน่วยสากล
- เบต้าแคโรทีน 1 ไมโครกรัม (0%)
- ลูทีน และ ซีแซนทีน 1 ไมโครกรัม
- วิตามินบี1 0.211 มิลลิกรัม 18%
- วิตามินบี2 1.014 มิลลิกรัม 85%
- วิตามินบี3 3.385 มิลลิกรัม 23%
- วิตามินบี5 0.469 มิลลิกรัม 9%
- วิตามินบี6 0.143 มิลลิกรัม 11%
- วิตามินบี9 50 ไมโครกรัม 13%
- โคลีน 52.1 มิลลิกรัม 11%
- วิตามินอี 26.2 มิลลิกรัม 175%
- วิตามินเค 0.0 ไมโครกรัม 0%
- ธาตุแคลเซียม 264 มิลลิกรัม 26%
- ธาตุเหล็ก 3.72 มิลลิกรัม 29%
- ธาตุแมกนีเซียม 268 มิลลิกรัม 75%
- ธาตุแมงกานีส 2.285 มิลลิกรัม 109%
- ธาตุฟอสฟอรัส 484 มิลลิกรัม 69%
- ธาตุโพแทสเซียม 705 มิลลิกรัม 15%
- ธาตุโซเดียม 1 มิลลิกรัม 0%
- ธาตุสังกะสี 3.08 มิลลิกรัม 32%
% ร้อยละของปริมาณแนะนำที่ร่างกายต้องการในแต่ละวันสำหรับผู้ใหญ่ (ข้อมูลจาก : USDA Nutrient database)
คำแนะนำ : แม้ว่าอัลมอนด์จะมีประโยชน์มากก็จริง แต่มันก็มีข้อเสียที่คุณควรจะรู้ไว้ เนื่องจากถั่วชนิดนี้มีของสารออกซาเลต (Oxalates) ซึ่งการได้รับเข้าไปในปริมาณอาจจะไม่เป็นผลดีกับร่างกายเท่าไหร่ และสำหรับผู้ที่มีปัญหาโรคไตหรือถุงน้ำดีด้วยแล้ว ก็ควรจะหลีกเลี่ยงการรับประทานอัลมอนด์ไว้ก็จะดีที่สุด
แหล่งอ้างอิง : www.organicfacts.net, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
เรียบเรียงข้อมูลโดย MedThai (ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด)
ผู้สนับสนุน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น