มะหลอด สรรพคุณและประโยชน์ของมะหลอด 20 ข้อ !

มะหลอด สรรพคุณและประโยชน์ของมะหลอด 20 ข้อ !

สลอดเถา
ผู้สนับสนุน 

มะหลอด

มะหลอด ชื่อวิทยาศาสตร์ Elaeagnus latifolia L. จัดอยู่ในวงศ์มะหลอด (ELAEAGNACEAE)
สมุนไพรมะหลอด มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า สลอดเถา หมากหลอด หรือ บะหลอด บ่าหลอด (ภาษาคำเมือง), ควยรอก (ตราด), ส้มหลอด (ภาคใต้) เป็นต้น
สมุนไพรมะหลอด เป็นพืชพื้นเมืองของไทยที่พบได้มากทางภาคเหนือ ตามป่า ตามทุ่งนา หรือตามบ้านเรือนชนบท และสามารถพบได้ทั่วไปตามชายป่าชื้น ป่าเบญจพรรณ และมักขึ้นทั่วไปตามเนินเขาในที่ร่มที่ระดับ 200-1,600 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล

ลักษณะของมะหลอด

  • ต้นมะหลอด เป็นไม้เถาเนื้อแข็ง ลำต้นและกิ่งมีเกล็ดสีเทาหรือสีเงิน
มะหลอด
  • ใบมะหลอด เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ลักษณะของใบเป็นรูปรีหรือรูปรีแกมหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบ แผ่นใบด้านบนมีสีเขียวอมน้ำเงินเกลี้ยง ส่วนด้านล้างมีเกล็ดเล็ก ๆ สีน้ำตาลทั่วไป กว้างประมาณ 3.5-4.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-12 เซนติเมตร และก้านใบยาวประมาณ 0.8-1.2 เซนติเมตร
  • ดอกมะหลอด จะออกดอกเป็นกระจุกตามง่ามใบ ยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร ดอกเป็นดอกแบบสมบูรณ์เพศหรอมีดอกเพศเมียปะปนรวมอยู่ด้วย ลักษณะของกลีบดอกจะเชื่อมติดกันเป็นหลอดคล้ายสันเหลี่ยม มีความยาวประมาณ 0.5 เซนติเมตร ที่ปลายแยกเป็น 5 กลีบ มีเกสรตัวผู้ 5 อัน ติดอยู่กับหลอดท่อดอก
  • ผลมะหลอด รูปมะหลอดมีลักษณะมีหลายรูปทรง อาทิ ผลรูปรี รูปไข่ รูปกรวย รูปลูกแพร์ และรูปทรงกระบอก ยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร ลักษณะโดยรวมจะคล้าย ๆกับมะเขือเทศราชินี ผิวเปลือกจะสากเล็กน้อย มีจุดสีขาวสีสีเงินบนผล ผลอ่อนมีสีเขียว เมื่อผลสุกแล้วจะมีสีแดงเข้ม หรือแดง หรือส้มแดง หรือสีเหลือง มีรสเปรี้ยว ฝาดจนถึงหวาน ใช้รับประทานเป็นผลไม้ได้ และในผลมีเมล็ดสีน้ำตาลเหลือง ลักษณะเมล็ดหัวท้ายแหลมยาวรี ตัวเมล็ดเป็นพู (ร่อง) โดยเมล็ดหนึ่งจะมี 8 พู
มะหลอด จะมีอยู่ด้วยกัน 3 รส โดยทุกรสจะมีรสฝาดรวมอยู่ด้วย ซึ่งได้แก่ มะหลอดส้มจะมีรสเปรี้ยว สีผลออกส้มใส, มะหลอดหวาน มีสีค่อนข้างแดงเข้ม หารับประทานได้ยาก, และมะหลอดก๋ำปอ มีรสไม่เปรี้ยวและไม่หวานมาก อย่างไรก็ตามก่อนนำมารับประทานต้องทำให้นิ่มก่อน ด้วยวิธีการนวดหรือคลึง เพราะจะช่วยลดความฝาดลงไปได้เยอะ แถมยังช่วยแยกเมล็ดออกมาได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
มะหลอด เป็นผลไม้ที่บางคนคงไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยิน เพราะเท่าที่ทราบก็คือผลไม้ชนิดนี้เป็นผลไม้ของทางภาคเหนือ โดยจะออกดอกออกผลในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนกุมภาพันธ์ เมื่อยามที่ผลมันสุก ต้นจะดูสวยงามเต็มไปด้วยผลที่มีสีแดงสด สีส้ม สีเหลือง สีเขียว คละเคล้ากันไป เห็นแล้วน่ารับประทาน แต่น่าเสียดายที่ผลไม้ชนิดนี้ยังไม่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลาย ทำให้มีผลผลิตจำหน่ายเข้าสู่ตลาดน้อยมาก และมักพบเห็นวางจำหน่ายตามตลาดในจังหวัดรอบนอกตามชนบท ทำให้ไม่เป็นที่รู้จักเหมือนผลไม้ชนิดอื่น และยังไม่มีการส่งเสริมการปลูกอย่างจริงจัง ซึ่งในปัจจุบันค่อนข้างจะหากได้ยากขึ้นทุกที

สรรพคุณของมะหลอด

  1. ช่วยบำรุงหัวใจ (ดอก)ลูกมะหลอด
  2. ช่วยบำรุงเนื้อหนังให้สมบูรณ์ (ใบ)
  3. มะหลอด สรรพคุณช่วยคุมธาตุในร่างกาย (ผล,ดอก)
  4. ช่วยแก้โรคตา (ดอก)
  5. สรรพคุณ มะหลอดช่วยแก้อาการคลื่นเหียนอาเจียนได้ (ผล)
  6. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ (ดอก)
  7. ช่วยแก้ไข้พิษ (เถา)
  8. ช่วยขับเสมหะ (เปลือกต้น)
  9. ทั้งต้น ใช้ต้มอาบแก้อาการใจสั่นได้ (ทั้งต้น)
  10. ผลสุกมะหลอดใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ (ผลสุก)
  11. ช่วยแก้อาการบิดและอาการท้องผูกในเด็ก (ผลสุก)
  12. ตำรับยาพื้นบ้านชาวล้านนาใช้เนื้อในเมล็ดผสมกับเหง้าสับปะรด 7 แว่น กับสารส้มขนาดเท่าหัวแม่มือ นำไปต้มเป็นน้ำดื่มช่วยแก้โรคนิ่วได้ (เนื้อในเมล็ด)
  13. ดอกใช้แก้ริดสีดวงจมูก (ดอก)
  14. ผลดิบใช้เป็นยาฝาดสมาน (ผลดิบ,ดอก)
  15. รากใช้ผสมรากเติ่ง นำไปแช่เหล้าที่ทำจากข้าวเหนียวตำ ใช้กินแก้อาการปวดกระดูก ปวดหัว หรืออาการเข่าเดินไม่ได้ (ราก)
  16. ดอกใช้เข้าเครื่องยา (ดอก)
ผู้สนับสนุน

ประโยชน์ของมะหลอด

  1. ประโยชน์ มะหลอดเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี มันจึงช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระได้
  2. ผลสุกใช้รับประทานเป็นผลไม้ได้ กินกับน้ำพริกหวาน หรือจะนำไปดองกับเกลือก็ได้เช่นกัน
  3. ผลสุกสามารถนำไปแปรรูปเป็นผลไม้ดอง ผลไม้แช่อิ่ม นำไปทำไวน์ เป็นต้น
  4. ผลดิบสีเขียว สามารถนำมารับประทานร่วมกับน้ำพริกถั่วเน่าพันด้วยผักกาดและผักชีได้ คล้าย ๆกับกินเมี่ยงคำ หรือนำมาทำส้มตำ ทำแกงส้ม เป็นต้น
ผลมะหลอด
แหล่งอ้างอิง : หนังสือพรรณไม้สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ เล่ม 1, หนังสือผลไม้ 111 ชนิด คุณค่าอาหารและการกิน (นิดดา หงส์วิวัฒน์, ทวีทอง หงส์วิวัฒน์), เว็บไซต์คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, ฐานข้อมูลพันธุ์ไม้ องค์การสวนพฤกษศาสตร์,เว็บไซต์สถาบันวิจัยและพัฒนาที่สูง
ภาพประกอบ : www.thaikasetsart.com, www.postjung.com, www.bloggang.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย MedThai (ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาไม่ว่าส่วนหนึ่งส่วนใด)
ผู้สนับสนุน 

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม